“พิชัย” จับเข่าถก “เศรษฐพุฒิ” หารือกรอบเงินเฟ้อปี 68 โอดของไทยต่ำเกินไป ไม่สอดคล้องเศรษฐกิจ ชี้เพื่อนบ้านขยับแตะ 3% หวังเร่งหาข้อสรุปก่อนสิ้นปีนี้
ที่กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2567 เวลา 13.00 น. นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยก่อนการหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยกับการกำหนดกรอบอัตราเงินเฟ้อของไทยในปี 2568 ว่า เรื่องตัวเลขอัตราเงินเฟ้อปี 2567 ของจริงที่คาดว่าจะออกมาน่าจะออกมาในทางต่ำ และต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 1-3% ซึ่งน่าจะต่ำเกินไป ดังนั้นก็ต้องมาพูดคุยกันว่ากรอบอัตราเงินเฟ้อที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันควรจะเป็นเท่าไหร่
ทั้งนี้ มองว่าอัตราเงินเฟ้อที่จะเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจไทยนั้น จะต้องไม่ต่ำเกินไป และแน่นอนว่าถ้าสูงก็ต้องไม่สูงจนอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ส่วนท้ายที่สุดกรอบอัตราเงินเฟ้อในปี 2568 จะเป็นอย่างไร คงต้องมาดูตัวเลขเงินเฟ้อของจริงในปีนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร และอีกประเด็นคือ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศส่งออก จึงอยากเห็นว่ามีการนำเรื่องการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนโดยไม่ใช่การแทรกแซงให้ผิดปกติ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการเงินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการเหมือนในบางประเทศด้วย
“เรื่องกรอบเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ต้องหารือ และวันนี้เป็นการหารือครั้งแรก ซึ่งกระบวนการหารือจะต้องรีบจบโดยเร็วเนื่องจากใกล้จะสิ้นปีแล้ว โดยคาดว่าน่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น โดยผมได้เน้นว่าอยากเห็นตัวเลขเงินเฟ้อของจริงในปีนี้มากกว่าว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนกรอบเงินเฟ้อที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่ ผมมองว่าประเทศที่อยู่ข้างเคียงเรามีอัตราเงินเฟ้อในทางสูง และประสบความสำเร็จ บางประเทศมีค่ากลางอยู่ใกล้ ๆ 3% ส่วนของไทยควรจะเป็นเท่าไหร่ก็ต้องมาดูกัน แต่มองว่าต่ำกว่า 1% นั้นมันก็ต่ำเกินไปจริง ๆ” นายพิชัย กล่าว
