‘ศรีสวัสดิ์’ เปิดแผน Q4 ลุยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

“ศรีสวัสดิ์” เปิดแผนธุรกิจโค้งสุดท้ายปี 2567 มุ่งโฟกัสสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ชูธงเป็นทางเลือกช่วยสกัดกลุ่มเปราะบางไม่ให้ติดกับหนี้นอกระบบ

18 ต.ค. 2567 – นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร  บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ศรีสวัสดิ์ยังคงเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ขององค์กร “เติบโตคู่ชีวิตชาวไทย” ตามที่มุ่งมั่นมาโดยตลอด  สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของศรีสวัสดิ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 จะโฟกัสสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นเรื่องของคุณภาพสินเชื่อ เพิ่มความเข้มงวดในหลักเกณฑ์และขั้นตอนการปล่อยสินเชื่อ พร้อมทั้งกำชับพนักงานให้อธิบายรายละเอียดกับลูกค้าอย่างครบถ้วน และแนะนำสินเชื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าจริง ๆ รวมถึงติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้มีมาตรการช่วยเหลือหากลูกค้าผ่อนไม่ไหวจริง ๆ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบางในต่างจังหวัดอาจจะไม่ค่อยมีวินัยทางการเงินมากนัก ซึ่งศรีสวัสดิ์ได้พยายามให้ความรู้เรื่องการเงินกับลูกค้ามาโดยตลอด ทั้งมีการจัดอบรมให้ความรู้เองและร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ

“ศรีสวัสดิ์” เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ซึ่งประกอบธุรกิจหลัก สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้าน และโฉนดที่ดิน มีความเชี่ยวชาญและเติบโตจากการทำตลาดในต่างจังหวัด ปัจจุบันมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 5,600 สาขา เน้นให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก ทั้งรถ 4 ล้อ,รถ 6 ล้อ, รถ 10 ล้อ และรถมอเตอร์ไซค์ โดยสัดส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์คิดเป็น 25% ของพอร์ต และโฉนดที่ดินคิดเป็น 25% ส่วนอีก 30% เป็นสินเชื่อมอเตอร์ไซค์เช่าซื้อ และประมาณเกือบ 20% เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งลูกค้าหลักเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารพาณิชย์ได้ ถือเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับกลุ่มเปราะบางอย่างแท้จริง

จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า และรายได้ของครัวเรือนมีความไม่แน่นอนมากขึ้น สวนทางกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูง ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อของครัวเรือนยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความระมัดระวังและเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เนื่องจากกังวลต่อความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและเครดิตของผู้กู้ ทำให้กลุ่มคนรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น ซึ่งศรีสวัสดิ์ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกของคนที่ต้องการเงินทุน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางสูง เพื่อไม่ต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบ โดยปัจจุบันลูกค้ามากกว่า 30% ในพอร์ตของศรีสวัสดิ์เป็นการผันตัวเองมาจากหนี้นอกระบบ และลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 95% อยู่ในต่างจังหวัด  

“นอนแบงก์คือด่านสุดท้ายก่อนที่กลุ่มคนรายได้น้อยจะไปพึ่งหนี้นอกระบบ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าบริการของนอนแบงก์ไม่เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ ขอกู้ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนและไม่ตรวจเครดิตบูโร ซึ่งนอนแบงก์เกือบทั้งหมด รวมถึงศรีสวัสดิ์จะเติบโตมาจากการดึงลูกหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ โดยบริการของนอนแบงก์จะเป็นระบบ ไม่มีการทวงหนี้แบบโหด และพนักงานของเรามีความคุ้นเคยกับลูกค้าอยู่แล้ว มีการเติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณภาพหนี้ของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบางก็อาจจ่ายหนี้ไม่ตรงเวลา ทำให้มีเอ็นพีแอลบ้างเป็นเรื่องปกติ โดยเราควบคุมอยู่ที่ประมาณ 3.5%”

นางสาวธิดา กล่าวสรุปว่า “ศรีสวัสดิ์เติบโตมาจากตลาดต่างจังหวัด ซึ่งมีวิธีการทำตลาดเป็นรูปแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เรามีความเข้าใจในพฤติกรรมลูกค้า ช่วงต้นปีสถานการณ์สินเชื่ออาจชะลอบ้าง แต่ตอนนี้กระเตื้องขึ้นแล้ว ลูกค้าที่มีเงินจะแบ่งจ่ายตามกำลังที่จ่ายไหว ไม่ใช่ไม่จ่าย เราเข้าใจว่าทุกคนต้องกินต้องใช้ ก็จะผ่อนปรนพูดคุยกับลูกค้าว่าจ่ายได้เท่าไหร่ ขอแค่อย่าหนีไป ซึ่งลูกค้ากลุ่มมอเตอร์ไซค์ต้องดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะมีความเปราะบางสูง ส่วนการแข่งขันในธุรกิจนอนแบงก์ยอมรับรุนแรงและเข้มข้นมาก แต่ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องคุณภาพสินเชื่อและบริการเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องราคา นอกจากนี้ เพื่อให้ตอบรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เริ่มคุ้นชิ้นกับดิจิทัล จากไปนี้เราคงไม่เน้นเรื่องการขยายสาขาจำนวนมาก ๆ แต่จะเน้นเรื่องการพัฒนาแอปพลิเคชันให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้สะดวกสบายขึ้น  โดยคาดว่าปลายปีนี้จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันเพื่อให้บริการสินเชื่อที่รวดเร็วและทั่วถึงในพื้นที่”

เพิ่มเพื่อน