5 วิธีป้องกันตนเองจากกลลวงของการตลาดแบบหลายชั้นสำหรับผู้สูงวัย

ข่าวของบริษัทหนึ่งที่มี “บอส” หลายคน เป็นภาพสะท้อนของอันตรายจากการตลาดแบบหลายชั้น (Multi-level Marketing หรือ MLM) กำลังแพร่หลายอยู่ในปัจจุบันนี้ ผู้สูงวัยมักกลุ่มแรก ๆ ที่ตกเป็นเป้าหมายของนักธุรกิจไร้จรรยาบรรณ อย่างไรก็ตาม หากมีความรู้และทักษะที่ถูกต้อง ผู้สูงวัยก็สามารถปกป้องตนเองได้ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลลวงเหล่านี้ บทความนี้จะแนะนำ 5 วิธีที่ผู้สูงวัยสามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเองเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของ MLM โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่นมากเกินไป

วิธีแรก คือ การเรียนรู้สัญญาณเตือน ซึ่งถือเป็นด่านแรกในการป้องกันตนเอง ผู้สูงวัยควรระมัดระวังเมื่อพบเห็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการหลอกลวง เช่น สัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนสูงอย่างรวดเร็ว การเร่งรัดให้ตัดสินใจทันที การเรียกร้องให้จ่ายเงินล่วงหน้า หรือข้อเสนอที่ “ดีเกินจริง” สัญญาณเหล่านี้มักเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงโครงการ MLM ที่อาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงิน การตระหนักรู้ถึงรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อได้ดียิ่งขึ้น โดยเมื่อพบเห็นสัญญาณเหล่านี้ ผู้สูงวัยควรชะลอการตัดสินใจและพิจารณาข้อเสนอนั้นอย่างรอบคอบมากขึ้น

วิธีที่สอง คือ ฉุกคิดก่อนจะตัดสินใจ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการป้องกันตนเอง ก่อนตัดสินใจลงทุนหรือซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆ ผู้สูงวัยควรตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อเสนอนั้นๆ อย่างละเอียด เช่น “ทำไมจึงมีผลตอบแทนสูงเช่นนี้?” “มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?” “ใครได้ประโยชน์จากการที่ฉันเข้าร่วม?” นอกจากนี้ ควรขอเวลาคิดทบทวน ไม่รีบตัดสินใจทันที แม้จะมีแรงกดดันจากนักขาย การใช้เวลาไตร่ตรองจะช่วยให้เห็นข้อดีข้อเสียได้ชัดเจนขึ้น และที่สำคัญ ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่เป็นกลาง ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าร่วมหรือลงทุนในโครงการใดๆ

วิธีที่สาม คือ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล ผู้สูงวัยควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินแก่คนแปลกหน้าหรือองค์กรที่ไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีออนไลน์ให้รัดกุม และไม่แชร์ข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรเครดิต เลขที่บัญชีธนาคาร หรือหมายเลขประกันสังคม กับใครก็ตามที่ติดต่อมาโดยไม่ได้คาดหมาย นอกจากนี้ ควรระมัดระวังในการคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากแหล่งที่ไม่รู้จัก เพราะอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือการติดมัลแวร์ได้ การปกป้องข้อมูลส่วนตัวอย่างเข้มงวดจะช่วยลดโอกาสที่ผู้ไม่หวังดีจะนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดหรือหลอกลวงทางการเงินได้

วิธีที่สี่ คือ การปรึกษาคนที่ไว้ใจได้ แม้ว่าการพึ่งพาตนเองจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การมีเครือข่ายสนับสนุนก็เป็นประโยชน์อย่างมากในการป้องกันการถูกหลอกลวง ผู้สูงวัยควรปรึกษาสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ก่อนตัดสินใจลงทุนหรือซื้อสินค้ามูลค่าสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับโครงการ MLM หรือการลงทุนที่สัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง การพูดคุยกับคนใกล้ชิดจะช่วยให้ได้มุมมองที่หลากหลาย และอาจช่วยชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงหรือข้อควรระวังที่อาจมองข้ามไป นอกจากนี้ หากเป็นไปได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่เป็นกลาง เช่น นักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรอง เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับความเหมาะสมของการลงทุนหรือการเข้าร่วมโครงการต่างๆ การมีเครือข่ายสนับสนุนที่แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางการเงินให้กับผู้สูงวัยได้อย่างมาก

วิธีสุดท้าย คือ การเรียนรู้วิธีรายงานการหลอกลวง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องตนเอง แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อด้วย ผู้สูงวัยควรทำความคุ้นเคยกับช่องทางการรายงานเมื่อพบเห็นหรือสงสัยว่ามีการหลอกลวง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการหลอกลวงทางการเงิน นอกจากนี้ ควรเก็บหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง เช่น เอกสาร อีเมล หรือบันทึกการสนทนา เพื่อใช้ประกอบการรายงาน การรายงานอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การนำวิธีการทั้ง 5 นี้ไปปฏิบัติจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้สูงวัยในการรับมือกับกลยุทธ์การตลาดแบบ MLM และการหลอกลวงทางการเงินรูปแบบต่างๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าการป้องกันตนเองเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ผู้สูงวัยควรหมั่นติดตามข่าวสารและเรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ การสร้างนิสัยการใช้จ่ายและการลงทุนอย่างรอบคอบในชีวิตประจำวันก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันตนเองในระยะยาว ท้ายที่สุด แม้ว่าการพึ่งพาตนเองจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การมีเครือข่ายสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนๆ ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยทางการเงินให้กับผู้สูงวัย การสื่อสารอย่างเปิดเผยกับคนใกล้ชิดเกี่ยวกับเรื่องการเงินจะช่วยสร้างระบบเตือนภัยและการป้องกันที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นกว่าการทำอะไรโดยลำพัง

คอลัมน์กระเบียดเกษียณ

ผศ. ดร. เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว

ผู้อำนวยการคณะทำงานจัดการองค์ความรู้และสื่อสารสาธารณะ

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เพิ่มเพื่อน