ทช.เร่งยกระดับโครงข่ายให้สมบูรณ์ เชื่อมถนนทางหลวง-ชุมชน-อำเภอ-หมูบ้าน พร้อมเดินเครื่องโปรเจกต์งบปี 68 กว่า 5 หมื่นล้าน ตั้งธงเบิกจ่ายงบครบ 100% ภายใน ก.ย. 68 แน่นอน หวังทวงบัลลังก์แชมป์ เล็งรับโอนถนนท้องถิ่น 1 หมื่น กม. พัฒนาให้ได้มาตรฐาน
9 ต.ค. 2567 – นายมนตรี เดชาสกุล อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมทางหลวงชนบท ว่า ตลอดระยะเวลาระยะเวลา 22 ปีที่ผ่านมา ทช. ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายคมนาคมที่สมบูรณ์ อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ให้มีความรวดเร็ว แบ่งเบาการจราจรบนถนนสายหลัก ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต
สำหรับในปีงบประมาณ 2568 ทช. ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงินกว่า 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบลงทุนสัดส่วนประมาณ 97-98% วงเงิน 49,144 ล้านบาท ประกอบด้วย งบลงทุนระยะเวลา 1 ปี วงเงิน 40,488 ล้านบาท, งบภาระผูกพันเดิม วงเงิน 6,067 ล้านบาท และงบภาระผูกพันใหม่ วงเงิน 2,628 บาท ส่วนที่เหลือจะเป็นงบประมาณด้านอื่นๆ เช่น ด้านบุคลากร ด้านค่าซ่อมบำรุงทาง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งเป้าเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2568 จะกลับมาเป็นแชมป์เบิกจ่ายให้ได้ 100% ภายใน ก.ย. 2568 ส่วนปี 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันเบิกจ่ายแล้วกว่า 70% คาดว่าจะครบ 100% ได้ใน พ.ย. 2567
นายมนตรี กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2568 ทช. จะเร่งดำเนินการโครงการที่คั่งค้างอยู่ วงเงินรวมประมาณ 6,641 ล้านบาท คือ โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา -อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ระยะทาง 7 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 4,841 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างสะพานข้ามเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ระยะทาง 2.2 กม. วงเงิน 1,800 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ จำนวน 14 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 10,300 ล้านบาท เช่น ถนนสายผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่, ถนนสาย ง ผังเมืองรวมเมืองทุ่งสงง จ.นครศรีธรรมราช, ถนนสาย ค ผังเมืองรวมเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นต้น ขณะเดียวกัน จะเร่งดำเนินการโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการให้แล้วเสร็จภายในกลางปี 2568 ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ 4-5 เดือน ได้แก่ 1.โครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ระยะทาง 6.8 กม. และ 2. โครงการข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี จำนวน 1 แห่ง
นายมนตรี กล่าวอีกว่า ถนนที่อยู่ในความดูแลของกรมฯมีระยะทางรวม 50,233 กม. ทั่วประเทศ และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนเชื่อมโยงโครงข่ายให้สมบูรณ์ เนื่องจาก ทช. มีหน้าที่สร้างถนนเข้าสู่ชุมชน อำเภอ หมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมถนนสายหลักจากกรมทางหลวง (ทล.) หากโครงข่ายตรงไหนยังไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับการพัฒนา ก็พร้อมที่จะไปดำเนินการซ่อมสร้าง ร่วมถึงเส้นทางที่อยู่ในความดูแลของท้องถิ่น ที่ไม่สามารถดูแลได้
ทั้งนี้ ทช.พร้อมที่จะรับช่วงต่อ เพื่อที่จะดูแลบำรุงรักษาเส้นทางนั้นๆ ให้มีมาตรฐาน ปัจจุบันพบว่า โครงข่ายท้องถิ่นมีระยะทางกว่า 10,000 กม. ทั่วประเทศ ที่สามารถรับโอนมาดูแลได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจราจาและดูความเหมาะสม และจะทยอยรับโอนตั้งแต่ปีงบประมาณ 2568 ส่วนถนนของ ทช. ที่ยังเป็นลูกรัง ระยะทางรวมกว่า 577 กม. นั้น ก็จะพยายามเร่งดำเนินการแก้ไข แต่ด้วยในบางพื้นที่อยู่ในเขตป่าไม้ จึงอาจจะดำเนินการได้ยาก
นายมนตรี กล่าวต่ออีกว่า ทช. พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมในการส่งเสริมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมุ่งดำเนินโครงการก่อสร้างสายทาง เพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวให้ประชาชนเดินทางด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อาทิ โครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำโขง นาคาวิถี ช่วงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (แห่งที่ 2)-พระธาตุพนม อ.เมือง, ธาตุพนม จ.มุกดาหาร, นครพนม งบประมาณ 615 ล้านบาท, โครงการก่อสร้างถนนท่องเที่ยวตะนาวศรีคีรีพัฒน์ ช่วงสามแยกถนนชัยพัฒนาตัดกับ ทล.3218 – ทล.4 อ.หัวหิน, ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ งบประมาณ 700 ล้านบาท และช่วงบ้านเขาบันได – บ้านพุน้ำร้อน อ.หนองหญ้าปล้อง, เขาย้อย จ.เพชรบุรี งบประมาณ 720 ล้านบาท
