สุดอั้น! กาแฟชาวดอย ขอปรับขึ้นราคาเครื่องดื่ม 5-10% เหตุราคาวัตถุดิบพุ่ง 200% พร้อมเผยเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของการดื่มกาแฟ ชี้ตลาดยังเติบโตดี โดยเฉพาะสาขาในสถานีบริการน้ำมัน
9 ต.ค. 2567 – นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป ซึ่งมี K.V.N. เป็นบริษัทในเครือ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์กาแฟชาวดอย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในระยะนี้ ต้องยอมรับว่ามีเรื่องของต้นทุนเข้ามาเป็นปัจจัยของความท้าทาย โดยในช่วงที่ผ่านมาต้นทุนวัตถุดิบจากกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าปรับราคาขึ้นกว่า 50% ขณะที่โรบัสต้า ปรับขึ้น 70% และโกโก้ปรับตัวขึ้นมากถึง 200% สาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศทำให้มีผลกระทบต่อภาคการผลิต
“เราพยายามประคับประคองราคามาตลอด เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ เพราะต้องเข้าใจว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจ ทำให้กำลังซื้อลดลง จึงไม่อยากไปเพิ่มภาระแก่ผู้บริโภคมากขึ้น หรือแม้แต่ร้านกาแฟในบางทำเลก็มีการปิดตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่เราก็ได้มีการปรับราคาไประดับหนึ่ง สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น หรือมีการปรับราคาเครื่องดื่มไปประมาณ 5-10% ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตอนนี้ต้องดูก่อนว่าในอนาคตต้นทุนด้านไหนจะขึ้นมามากน้อยแค่ไหน และจะสามารถบริหารต้นทุนส่วนไหนได้บ้าง เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคมากกว่านี้” นายกิจจา กล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดกาแฟของไทยอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท เติบโต 7.8% ส่วนมากจะเป็นการบริโภคภายในที่พักอาศัยประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท โตประมาณเกือบ 10% อีกประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาทเป็นร้านกาแฟที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน มีอัตราการเติบโตปีละ 25% มาอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะมีการเดินทางมากขึ้น และอัตราการบริโคกาแฟของคนไทยก็เพิ่มขึ้น ขณะที่มูลค่าอีกกว่า 8,000 ล้านบาท จะเป็นร้านกาแฟที่อยู่นอกสถานีบริการน้ำมัน
ทั้งนี้ เทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาดื่มกาแฟ พบว่ามีอายุน้อยลง จากในอดีตจะเริ่มดื่มกาแฟตอนอายุประมาณ 21-22 ปี แต่ปัจจุบันจะพบว่าคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 16-17 ปี ก็เริ่มหันมาดื่มกาแฟกันแล้ว เนื่องจากมีการขยายร้านกาแฟกันมากขึ้น รวมถึงการเปิดคาเฟ่ต่างๆ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นนิยมไปใช้บริการ ส่งผลต่ออัตราการบริโภคกาแฟปรับเปลี่ยนไป