'สมาคมการบินฯ' พร้อมใจใช้น้ำมัน 'SAF' มีผลบังคับใช้ปี69

‘สมาคมสายการบินประเทศไทย’จับมือใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน เตรียมประกาศบังคับใช้ในปี 69 ให้สายการบินต้องเพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมัน SAF  1% หวังภาครัฐช่วยสนับสนุนด้านนโยบายลดต้นทุน

8 ต.ค.2567 – นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมการบินกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ ของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การนำเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน (SAF) มาใช้การพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการปรับใช้คาร์บอนเครดิตที่เป็นระบบ จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญที่สายการบินต้องปรับตัว

อย่างไรก็ดี สมาคมสายการบินประเทศไทยเล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญที่ต้องทำในการนำทิศทางความยั่งยืนให้เป็นไปในทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับองค์กรภาคเอกชน ภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการบิน ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีให้ได้เรียนรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรมการบินของไทยในอนาคต

“การจัดงานครั้งนี้ เพื่อร่วมมือกับภาครัฐในการทำงานการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพราะขณะนี้ทุกสายการบินยอมรับที่จะใช้น้ำมัน SAF และช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมในภาวะที่เราต้องร่วมดูแล เพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2050” นายพุฒิพงศ์ กล่าว

สำหรับข้อกำหนดของภาครัฐที่เตรียมประกาศบังคับใช้ในปี 2569 ให้สายการบินต้องเพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมัน SAF  1% คงต้องยอมรับว่าราคาน้ำมันดังกล่างเป็นต้นทุนที่แพงกว่าเชื้อเพลิงปกติ 3 เท่า ดังนั้นการทยอยเอามาเป็นส่วนผสมเล็กน้อย ถือเป็นแนวทางที่ดีที่จะทำให้ผู้ประกอบการได้บริหารจัดการต้นทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะภาคเอกชนยังคงหวังว่าภาครัฐจะมีแนวทางทำให้ต้นทุนเหล่านี้ปรับลดลงได้ ไม่ว่าจะเกิดจากวิธีลดต้นทุนการผลิต หรือภาครัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุนต้นทุน เพื่อทำให้สายการบินเดินหน้าให้บรรลุเป้าหมายต่อไปได้

นายพุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วย คือ ความชัดเจนในการเดินหน้าแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และแนวทางที่จะสนับสนุนผู้ผลิตน้ำมัน SAF ข้อกำหนดข้อบังคับที่จะมีผลต่อผู้ใช้ รวมไปถึงสร้างการรับรู้ต่อผู้ใช้บริการภาคประชาชนทั่วไป ถึงมาตรการที่กำลังจะเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมการบิน เพราะที่ผ่านมาภาครัฐได้ดำเนินการในส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นผลบวกอย่างชัดเจนสำหรับการท่องเที่ยวไฮซีซั่นปลายปีนี้

ด้านนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ภาครัฐได้มุ่งเน้นการสนับสนุนในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการลดก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2593 รวมถึงการใช้มาตรการเชิงรุกในเชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF) ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ตลาดคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่สร้างความตระหนักรูู้ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีระดับโลก และการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาคาร์บอนเครดิต เพื่อตอบสนองต่อกฎเกณฑ์ CORSIA ภายใต้ข้อตกลงปารีส

ขณะที่ นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด และอุปนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกันเเละแบ่งปันประสบการณ์ทำงานด้านความยั่งยืน เชื่อมั่นและทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าสำคัญในการบรรลุเป้าหมายตามแผน พร้อมทำให้เกิดการปฏิบัติที่ชัดเจนและประเมินผลได้ พร้อมยืนยันว่า “อุตสาหกรรมการบิน” จะยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการเชื่อมต่อผู้คนทั้งเศรษฐกิจ สังคม โดยสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง