'คลัง' เปิดยอดภาคตะวันออกเฉียงเหนือรับเงินหมื่นฉ่ำสุด5.8ล้านคน

“คลัง” กางผลอัดฉีด 1.45 แสนล้านบาทเข้าระบบ ช่วยสร้างพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดยอดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับเงินหมื่นฉ่ำสุด 5.8 ล้านคน

4 ต.ค. 2567 -นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยการวิเคราะห์ข้อมูลโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย 14.55 ล้านคน ระหว่างวันที่ 25-27 และ 30 ก.ย. 2567 ในมิติของการกระจายตัว โดย1. ภาพรวมการกระจายตัวกลุ่มเป้าหมายโครงการ จำนวน 14.55 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40 ล้านคน และคนพิการ 2.15 ล้านคน ได้รับเงินคนละ 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือช่องทางเดิมในการรับเงินเบี้ยความพิการ คิดเป็นวงเงิน 1.45 แสนล้านบาท

โดยพบว่า ภาคที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5.8 ล้านคน รองลงมา ได้แก่ ภาคเหนือ 3.3 ล้านคน, ภาคใต้ 2.2 ล้านคน, กรุงเทพฯ และปริมณฑล 1.0 ล้านคน, ภาคตะวันตก 0.75 ล้านคน, ภาคตะวันออก 0.73 ล้านคน และภาคกลาง 0.62 ล้านคน โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.นครราชสีมา 5.4 แสนคน, จ.อุบลราชธานี 4.4 แสนคน, จ.ศรีสะเกษ 4.0 แสนคน, จ.เชียงใหม่ 3.9 แสนคน และ จ.บุรีรัมย์ 3.7 แสนคน ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง 2.7 หมื่นคน, จ.ภูเก็ต 2.8 หมื่นคน, จ.ตราด 3.1 หมื่นคน, จ.สมุทรสงคราม 3.3 หมื่นคน และ จ.พังงา 4.2 หมื่นคน

2. หากพิจารณาเฉพาะผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40 ล้านคน จะพบว่า จังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.นครราชสีมา 5.3 แสนคน, กรุงเทพฯ 4.4 แสนคน, จ.อุบลราชธานี 4.3 แสนคน, จ.เชียงใหม่ 3.9 แสนคน และ จ.ศรีสะเกษ 3.8 แสนคน จังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง 2.7 หมื่นคน, จ.ภูเก็ต 2.8 หมื่นคน, จ.ตราด 3.1 หมื่นคน, จ.สมุทรสงคราม 3.3 หมื่นคน และ จ.พังงา 4.2 หมื่นคน และหากพิจารณาเฉพาะคนพิการ 2.15 ล้านคน จะพบว่า จังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 9.9 หมื่นคน, จ.นครราชสีมา 8.5 หมื่นคน, จ.บุรีรัมย์ 6.8 หมื่นคน, จ.อุบลราชธานี 6.2 หมื่นคน และ จ.ขอนแก่น 5.9 หมื่นคน ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง 3.9 พันคน, จ.ตราด 4.5 พันคน, จ.สมุทรสงคราม 6.1 พันคน, จ.ภูเก็ต 6.8 พันคน และ จ.สิงห์บุรี 7.0 พันคน

3. เมื่อพิจารณาข้อมูลในระดับตำบล พบว่าเงินจำนวนดังกล่าวกระจายไปถึงผู้ได้รับสิทธิครบทุกตำบลทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ และในกรุงเทพฯ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มีจำนวนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการกระจายตัวอยู่เป็นวงกว้าง สะท้อนว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ความสำคัญกับการเติบโตจากเศรษฐกิจฐานรากผ่านกลุ่มคนเปราะบางได้อย่างทั่วถึง (Inclusive)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองเลขาฯเพื่อไทย ฟาดกลับ 'ไอซ์ รักชนก' แซะแจกเงินหมื่นช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ใจเย็นๆ นิดนะคะ รัฐบาลตั้งใจส่งเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือกลุ่มเป้าหมายให้เร็วที่สุด

'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน

ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี

บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา

เตรียมรับอีกคดี! 'อดีตรมว.คลัง' ฟันธง! แจกเงินอายุเกิน 60 ปีผิดกฎหมาย

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความว่