‘สุริยะ’สั่งตั้งคณะกรรมภายนอก ร่วมตรวจสอบ วิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุ พร้อมเสนอแนะมาตรการป้องกัน สรุปผลภายใน 15 วัน ด้าน ‘จิรุตม์’เผยขนส่งโคราช รวบทันควันรถบัส 5 คัน ถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ
3 ต.ค. 2567 – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันนี้ 3 ตุลาคม 2567 ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงคมนาคม แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณามาตรการเชิงป้องกันสำหรับการให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้ทราบสาเหตุและปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจากการให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะ อันจะนำไปสู่การกำหนดมาตรการเชิงป้องกันและแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานและผู้มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคม รวมทั้งข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีกในอนาคต
สำหรับคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง เป็นประธานกรรมการ นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธานฯ กรรมการ ประกอบด้วย รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย รศ. อเนก ศิริพานิชกร ศ.ดร.มงคล มงคลวงศ์โรจน์ สภาวิศวกร นายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผศ.ดร.ชูชัย สุจิวรกุล ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการและเลขานุการ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายที่ ๒ กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ จะมีหน้าที่และอำนาจ ในการศึกษา ตรวจสอบ และวิเคราะห์ตามหลักวิศวกรรม เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุและความสูญเสียดังกล่าว เสนอมาตรการเชิงป้องกันทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะยาว รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงาน และผู้มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับการให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทขึ้นอีกในอนาคต เพื่อพิจารณาสั่งการ เสนอข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยสำหรับการให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท โดยให้รายงานผลการดำเนินงานให้ทราบภายใน 15 วัน นับจากวันที่มีคำสั่งแต่งตั้ง
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กล่าว่ากรณีรถบัสนำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี มาทัศนศึกษา ซึ่งประสบอุบัติเหตุเกิดเพลิงไหม้ ณ บริเวณใกล้ทางแยกต่างระดับอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยกรมการขนส่งทางบกได้เรียกผู้ประกอบการรายดังกล่าวให้นำรถที่อยู่ในความครอบครองและเครือข่ายจำนวน 5 คัน เข้ามาตรวจสภาพรถทั้งหมด ณ สำนักงานขนส่งลพบุรี แต่ผู้ประกอบการรายดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถตามคำสั่งโดยเร็ว กรมการขนส่งทางบกจึงได้ตรวจสอบพิกัด GPS พบว่ารถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิดจากดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดัดแปลงระบบก๊าซ ซึ่งส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ อีกทั้งมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรหรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีต่อไป และจะเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดจำนวน 13,426 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถอย่างเข้มข้นภายใน 60 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตามสูตร! สุริยะให้ขึ้นทางด่วนฟรีเป็นของขวัญประชาชน
'สุริยะ' เล็งจัดแพ็กเกจทางด่วนฟรี-บริการเดินทางสาธารณะ เป็นขวัญปีใหม่ ปชช. รับยกเว้นภาษีน้ำมันเครื่องบินทำไม่ได้