โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ นครศรีธรรมราช จัดงานกิจกรรมสาธิตการจัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม และทดสอบการช่วยเหลือในสถานการณ์ภัยพิบัติ ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย และตรงตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) อาทิ ห้องฉุกเฉิน, ระบบอุปโภค-บริโภค, เครื่องปั่นไฟ, เครื่องกรองน้ำระบบ RO, เครื่องผลิตออกซิเจนจากอากาศ เพื่อสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยในเบื้องต้น พร้อมรับมือกับภัยพิบัติ และสามารถส่งต่อผู้ป่วยสู่การรักษาที่ทันท่วงที ให้กลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างดีที่สุดต่อไป
3 ต.ค. 2567 – พันเอกชัยชาญ คำหาญ รองแพทย์ใหญ่ กองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ เป็นโรงพยาบาลที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบกให้เป็นสถานพยาบาลที่เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลาสำหรับสถานการณ์ภาคใต้ รวมไปถึงเรื่องสาธารณภัยอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อโรงพยาบาลฯ มีความพร้อมมากขึ้น โดยเฉพาะจากความสำเร็จในการยกระดับมาตรฐานการทำโรงพยาบาลสนาม ซึ่งใกล้เคียงกับระดับที่ 2 เราจึงได้ดำเนินการแสดงศักยภาพนี้ ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานต่าง ๆ ของราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับอุบัติสาธารณภัย จนถึงกลุ่มประชาชนทั่วไป ให้ได้เห็นและเกิดความมั่นใจในประสิทธิภาพของการให้บริการทั้งทางด้านแพทย์สนามและด้านโรงพยาบาลสนาม
สำหรับกิจกรรมตั้งโรงพยาบาลสนามโดยโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ ครั้งนี้ เป็นการสาธิตการจัดเตรียม ‘โรงพยาบาลสนาม ที่เทียบเท่าใกล้เคียงกับระดับ 2’ หรือโรงพยาบาลสนามที่มีความสามารถในการทำหัตถการในการผ่าตัดและช่วยชีวิตในเบื้องต้นได้กรณีคนไข้มีอาการวิกฤต โดยในองค์ประกอบของโรงพยาบาลสนามนี้ จะมีทั้งส่วนของ เตียงรองรับผู้ป่วยกว่า 20 เตียง สำหรับดูแลผู้ป่วยได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง, ห้องฉุกเฉิน, ห้องสุขา, ระบบอุปโภค-บริโภค, เครื่องปั่นไฟ และเครื่องทำลายขยะตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO), เครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) ซึ่งสามารถใช้ในการฟอกไตได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตทดสอบการใช้โรงพยาบาลสนามเพื่อช่วยเหลือเหตุการณ์โคลนถล่ม ที่เป็นการแสดงความพร้อมรับมือในด้านภัยพิบัติ โดยมีเครื่องมือสำคัญอย่าง ‘เครื่องผลิตออกซิเจนจากอากาศ’ เข้ามาใช้ในโรงพยาบาลสนามนี้ด้วย นับเป็นเทคโนโลยีแรก ๆ ในประเทศไทย ที่เข้ามาตอบโจทย์การช่วยเหลือได้ครอบคลุม โดยเฉพาะกรณีเคลื่อนย้ายทางอากาศ จากเดิมที่เครื่องบินไม่สามารถแบกถังออกซิเจนขึ้นไปได้ เนื่องจากมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยเครื่องมือดังกล่าวสามารถผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์จากอากาศ ได้ภายใน 1 ชั่วโมง ช่วยให้มีออกซิเจนพร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันที
โดยทั่วไปแล้ว โรงพยาบาลสนามจะออกดำเนินการ ต่อเมื่อโรงพยาบาลพื้นฐานหรือระบบสาธารณสุขในพื้นที่ไม่สามารถใช้การได้ เช่นในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมทางภาคเหนือ ที่เราสามารถนำโรงพยาบาลสนามไปสับเปลี่ยนกำลังกับบุคลากรในพื้นที่ พร้อมทดแทนอุปกรณ์การแพทย์เดิมที่เสียหาย อีกทั้งด้วยมาตรฐานที่โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธมี คือใกล้เคียงระดับที่ 2 นี้ จะมุ่งเป้าเดินหน้าทดสอบมาตรฐานกับองค์การอนามัยโลกต่อไป เพื่อให้ได้เป็นโรงพยาบาลสนาม ระดับ 2 อย่างเต็มตัว
“โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ มีความมั่นใจเป็นอย่างมากถ้าในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ ทางโรงพยาบาลมีทีมแพทย์ และอุปกรณ์อย่างครบครันในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะโรงพยาบาลสนามที่เทียบเท่าใกล้เคียงกับระดับ 2 หรือโรงพยาบาลสนามที่มีความสามารถในการทำหัตถการในการผ่าตัด และช่วยชีวิตในเบื้องต้นได้ กรณีคนไข้มีอาการวิกฤต” พันเอกชัยชาญ กล่าวเสริมย้ำในตอนท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศรชล.ภาค 3' ปฏิบัติภารกิจด่วนช่วยลูกเรือปานามา ป่วยฉุกเฉินกลางทะเลอันดามัน
'ศรชล.ภาค 3' ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลูกเรือสินค้าปานามา ป่วยฉุกเฉินกลางทะเลอันดามัน เร่งนำขึ้นฝั่งส่งตัวรักษาโรงพยาบาลภูเก็ต
สุดหวาดเสียว! คนร้ายโปรยตะปูเรือใบเกลื่อนถนน ตร.เร่งล่าตัว
เพจเฟซบุ๊ก “พีอาร์ยางยนต์ 99 จำหน่าย ยางรถยนต์ ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ ปะยาง 24 ชม.” ตั้งอยู่ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์การออกไปให้บริการปะเปลี่ยนยางลอรถยนต์นอกสถานที่
ชาวเน็ตเสียงแตก ตำรวจยิงชายคลั่งในโรงพยาบาลเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา พล.ต.ตสุคนธ์ ศรีอรุณ (ผู้บังคับการตรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์) พร้อม นายแพทย์ ชวมัย สืบนุการณ์ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์) อาคาร ชั้น2 สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ได้มีการแถลงข่าว จากกรณีข่าวดัง “เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุผู้ป่วยผ่าตัดไส้ติ่งคุ้มคลั่ง”
70 ยัน 90 ปี เพียงเดินเพิ่ม 500 ก้าว ลดเสี่ยงโรคเส้นเลือดหัวใจ-สมองตีบ
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 70 ยัน 90 ขวบ เพียงเดินเพิ่มแค่ 500 ก้าว
'แต๊งค์ พงศกร' หุ่นพัง-งานหาย! ตัดสินใจแปลงร่างเพื่อครอบครัว
แต๊งค์-พงศกร มหาเปารยะ รับเคยปาร์ตี้หนักจนลงพุง หนักถึง 80 กิโลกรัม แม้แต่เพื่อนในวงการยังจำหน้าไม่ได้ ทำให้งานจ้างหาย สุขภาพย่ำแย่ สู่การตัดสินใจแปลงร่างพลิกชีวิต มุ่งมั่นลดน้ำหนักได้ถึงเดือนละ 10 กิโล จนทวงคืนร่างทองภายใน 4 เดือนได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวเปิดใจผ่านรายการ "คนแปลงร่าง"