“คลัง” ลุยเข็นมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอุ้มประชาชน-ธุรกิจขนาดเล็กอ่วมน้ำท่วม ด้าน “แรงงาน” เตรียมลดเงินสมทบช่วยผู้ประกันตนในพื้นที่ภัยพิบัติ 2% จนถึงเดือน มี.ค. 2568 พร้อมผนึก ธอส. ลุยโครงการสินเชื่อบ้านเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ชูดอกเบี้ยต่ำ 5 ปี ที่ 1.59% หวังช่วยผู้ประกันตนมีบ้านไม่ต่ำกว่า 5 พันราย
26 ก.ย. 2567 – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เร่งพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะด้านเงินทุนสำหรับช่วยเหลือภาคประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งจะเป็นเงินทุนระยะยาว อัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเป็นการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ขณะที่มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการให้สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้หลายประเทศมีการดำเนินการกันค่อนข้างมาก ดังนั้นในส่วนของประเทศไทยก็ควรจะมีการศึกษาเรื่องนี้ด้วย เพราะเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มดีมานต์ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยเพิ่มเติม ขณะเดียวกันในส่วนของผู้กู้สินเชื่อบ้านนั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อยู่ระหว่างดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีลูกหนี้ประสงค์เข้าร่วมโครงการประมาณ 1 แสนราย และในจำนวนนี้มีราว 1 หมื่นกว่ารายที่อยู่ในกลุ่มหนี้เสีย (NPL) ซึ่งหากกลุ่มนี้สามารถดำเนินการผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ในระยะต่อไปก็จะถูกถอดรายชื่อออกจากเครดิตบูโรด้วย
“มาตรการด้านที่อยู่อาศัยวันนี้รัฐบาลกำลังเร่งทยอยทำ แต่ก็ขอรอดูผลสำเร็จของมาตรการ โดยเฉพาะมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ว่าจะมีผลดีอย่างไร และอยากเชิญชวนให้ธนาคารพาณิชย์มาเช้าร่วมโครงการนี้ด้วย” นายพิชัย กล่าว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานเตรียมออกมาตรการปรับลดเงินสมทบประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตนทั้งฝั่งนางจ้างและลูกจ้างลง 2% ในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประกาศ โดยจะให้มีการผ่อนผันการลดเงินสมทบดังกล่าวจนถึงเดือน มี.ค. 2568
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2567 นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวภายหลังลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ สำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยุ่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี, ปีที่ 6-8 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33. 39 และ 40 ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น
ทั้งนี้ สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ภายใต้วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 3,400 บาท สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคารได้ โดยคาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตัวเองเพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันราย
สำหรับผู้ปประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ จะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม ผ่านแอปพลิเคชัน SSO PLUS เพื่อขอรับหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน และลงลำดับคิวเพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 พร้อมนำเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกันมายื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2567 – 30 ธ.ค. 2568
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุริยะใส' เขย่า 'แจกเงินหมื่น' หอกทิ่มแทง วัดใจจุดเปลี่ยนรัฐบาลแพทองธาร
“สุริยะใส” ชี้จุดสลบใหญ่เรื่องเศรษฐกิจ นโยบายเรือธงอย่างดิจิทัล แจกเงินหมื่นเป็นหอกทิ่มแทง วัดใจจุดเปลี่ยนของรัฐบาลแพทองธาร
ศปช. ส่งจนท.-เครื่องจักร เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัย 3 จังหวัดใต้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง