ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนส.ค. ยังลด 20.56% สะท้อนยอดขายและส่งออกไม่โต ชี้สถาบันการเงินยังเข้มงวดในการให้สินเชื่อ เผยหนี้รถยนต์ Q2/67 สูงถึง 254,484 ล้านบาท ลุ้นนโยบายรัฐปลายปีกระตุ้นอีกรอบ
24 ก.ย. 2567 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าจำนวนการผลิต รถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศในเดือน ส.ค. 2567 มีทั้งสิ้น 119,680 คัน ลดลงจากเดือน ส.ค. ปีก่อน 20.56% เพราะผลิตเพื่อขายในประเทศและผลิตเพื่อส่งออกลดลง 40.49% และ 6.62% ตามลำดับจากการผลิตรถกระบะลดลง และลดลงจากเดือน ก.ค. 4.12% โดย จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 8 เดือน (ม.ค. – ส.ค.) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,005,749 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.69% โดยแบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออก 82,788 คัน เท่ากับ 69.17% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ส.ค. ของปีก่อน 6.62% ส่วนช่วง 8 เดือน ผลิตเพื่อส่งออกได้ 686,509 คัน เท่ากับ 68.26% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกัน 2.74%
ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือน ส.ค. ผลิตได้ 36,892 คัน เท่ากับ 30.83% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือน ส.ค. ของปีก่อน 40.49% และช่วง 8 เดือน ผลิตได้ 319,240 คัน เท่ากับ 31.74% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกัน 38.13% ด้านรถจักรยานยนต์ เดือนส.ค. ผลิตได้ทั้งสิ้น 172,064 คัน ลดลงจากเดือนส.ค. ของปีก่อน 7.95% ส่วนยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ช่วง 8 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 1,548,433 คัน ลดลงจากปีก่อน 8.29%
ด้านยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ส.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 45,190 คัน ลดลงจากเดือนก.ค. 67 ที่ 2.60% และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 24.98% เพราะสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการให้สินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงโดยหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ ณ ไตรมาสสองของปีนี้ สูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% จากไตรมาสสองปีที่แล้วและเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำที่ 2.3% ในไตรมาสสองของปีนี้
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า มองว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีขึ้นจากรัฐบาลใหม่ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งมีนโยบายหลายข้อที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เช่น การแจกเงินหนี่งหมื่นบาทเป็นเงินสดซึ่งจำนวนเงินกว่าหนึ่งแสนล้านบาท การแก้ใขหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ เป็นต้น รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ก็ทันใช้ตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ด้วย และดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ก็เพิ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 0.50 และอาจจะลดอีกครั้งในปีนี้
ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ส.ค. ส่งออกได้ 86,066 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 3.04% แต่ลดลงจากเดือนส.ค.ของปีก่อน 1.70% จากปัญหาเรื่องพื้นที่ในเดือนในเรือไม่เพียงพอและล่าช้าจากสงครามอิสราเอลกับฮามาสและปัญหาสิ่งสกปรกในท่าเรือที่ติดในรถกระบะที่เตรียมขับขึ้นเรือ จึงผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกลดลง 12.92% และส่งออกลดลงในตลาดออสเตรเลีย แอฟริกา ยุโรป
ขณะที่มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 60,334.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ของปีก่อน 0.20% โดยรวมมูลค่าส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 82,901.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. ปีก่อน 0.71% และช่วง 8 เดือน ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 688,633 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกัน 4.94% มูลค่า 480,206.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.08% และรวมมูลค่าส่งออกรถยนต์ รวมเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ ช่วง 8 เดือนมีมูลค่า 650,082.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.21%