กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ตอกย้ำความสำเร็จตลอด 17 ปี ในด้านการยกระดับสินค้าและบริการไทยสู่ระดับสากล และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าที่สอดรับไปกับความต้องการของโลก ผ่านโครงการรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Design Excellence Award: DEmark) เวทีประชันฝีมือการออกแบบสินค้าและบริการของไทยที่เปิดโอกาสสู่เวทีการออกแบบระดับโลกอนาคตเตรียมต่อยอดความสำเร็จ พร้อมมุ่งมั่นสร้างแนวคิดและแนวทางการพิจารณารางวัลที่เข้มข้นสอดคล้องไปกับกลยุทธ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
19 ก.ย. 2567 – นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประสบความสำเร็จในการผลักดันธุรกิจและอุตสาหกรรมการออกแบบให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับนานาประเทศ ผ่านโครงการรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม หรือ DEmark มาต่อเนื่อง 17 ปี โดยพบว่ามีนักออกแบบและผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นทุกปี จึงสะท้อนได้ว่ารางวัล DEmark ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องความสามารถด้านการออกแบบของคนไทย แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่ในการพัฒนาผลงานที่มีคุณภาพและเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับสินค้าและบริการไทยในตลาดโลก ที่สำคัญคือผลงานของนักออกแบบไทยที่ได้รับรางวัล ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าและบริการของไทยจนเป็นที่ยอมรับด้านการสร้างสรรค์ในตลาดสากล
สำหรับรางวัล DEmark ถือเป็นเวทีประชันฝีมือของบรรดานักออกแบบไทยที่จะคว้าโอกาสรับสิทธิ์ผ่านเข้ารอบสองรางวัล G-mark แบบอัตโนมัติทันที และสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมแสดงผลงานในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติมากมาย ที่สำคัญช่วยเพิ่มสามารถแข่งขันทางการค้า ด้วยสร้างนักออกแบบหรือนักสร้างสรรค์ที่จะช่วยยกระดับสินค้าไทยไปสู่ระดับสากล ยิ่งกว่านั้นยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการส่งออกของไทยได้เป็นอย่างดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงให้ความสำคัญกับคุณภาพการผลิต การใช้งาน และแนวความคิดของการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถสะท้อนวัฒนธรรมสร้างสรรค์จากอัตลักษณ์ความเป็นไทยอันจะนำไปสู่ความยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ด้านการออกแบบของประเทศไทย มาใช้ในการพิจารณารางวัลในปี 2567 ด้วย
ม.ล.ภาสกร อาภากร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในส่วนของรางวัล DEmark ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Power of Sustainable Design: จุดพลัง สร้างสรรค์งานดีไซน์อย่างยั่งยืน โดยมีการผสาน Soft Power ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยสู่เวทีโลกด้วย อีกทั้งยังมีการปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินรางวัลขอบเขตผลงานให้มีความชัดเจน และให้น้ำหนัก แนวความคิดในการนำเอาต้นทุนทางวัฒนธรรมมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ และปรับประเภทสาขารวมทั้งหมด 8 สาขาเพื่อให้ครอบคลุมผลงานการออกแบบที่มีความหลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs / Micro Enterprise นักออกแบบรุ่นใหม่ สามารถมีส่วนร่วมในการสมัครเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดศักยภาพทางการแข่งขันเชิงรุกธุรกิจการส่งออกในวงกว้าง
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเกือบ 2 ทศวรรษหรือในปี 2551 พฤติกรรมของผู้บริโภคและแนวทางในการแข่งขันทางการค้าเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญและเลือกซื้อสินค้าที่ได้รับการออกแบบที่ดีมากขึ้น แต่ในขณะนั้นอุตสาหกรรมการออกแบบสินค้าและบริการของประเทศไทยยังไม่ค่อยได้รับความสำคัญ ทำให้ผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศไม่ทราบถึงความสามารถและศักยภาพในการออกแบบของนักสร้างสรรค์หรือนักออกแบบของไทย สำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีความต้องการส่งเสริมสินค้าที่มีการออกแบบดีจากประเทศไทยสู่สากล รวมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการของตนเองให้สอดคล้องกับบริบทตลาดการค้าโลก จึงได้ต่อยอดรางวัล Prime Minister’s Export Award (PM Award) ประเภท Thai-Owned Design มาเป็นโครงการรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Design Excellence Award) หรือ DEmark ขึ้นในปี 2551 โดยได้มีการออกแบบตราสัญลักษณ์รางวัลขึ้นใหม่ในชื่อ DEmark เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีการออกแบบดี และใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความแตกต่าง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย
นอกจากนี้ รางวัล DEmark ยังได้รับการสนับสนุนจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (The Japan External Trade Organization: JETRO) และสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Institute of Design Promotion: JDP) ในการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบจากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัล โดยผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark จะผ่านเข้ารอบสองทันทีในการประกวดรางวัล Good Design Award (G-mark) ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่เพียงเท่านั้น ผลงานที่ได้รับรางวัลยังสามารถใช้โลโก้ DEmark เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการส่งเสริมการขายได้ รวมถึงได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายผ่านสื่อชั้นนำ อีกทั้งยังร่วมนำสินค้าและบริการไปจัดแสดงนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ เช่น งาน Milan Design Week อิตาลี เป็นต้น
ทั้งนี้ ความสำเร็จในการเฟ้นหาผลงานการออกแบบดีตลอด 17 ปีที่ผ่านมา (ปี 2551 – 2567) โครงการ DEmark ได้มอบรางวัลไปแล้วทั้งหมด 1,225 รายการ และได้รางวัล G-mark มาแล้ว 545 รายการ
ในปี 2567 รางวัล DEmark Award 2024 ได้รับการจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “THE POWER OF SUSTAINABLE DESIGN: จุดพลัง สร้างสรรค์งานดีไซน์อย่างยั่งยืน” ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ด้านการออกแบบของประเทศไทยให้ปรากฏเด่นชัดในเวทีระดับนานาชาติ ผ่านการถ่ายทอดแนวคิดและภาพในการสื่อสาร (Key Visual) โดยการใช้ “หม้อดอก” หรือ “ปูรณฆฏะ” ที่ซ่อนสัญลักษณ์อนันต์ (Infinity) เพื่อเป็นตัวแทนของความเชื่อ ศาสนา และวัฒนธรรมอันหลากหลายผ่านการเดินทางและการค้าขายตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบันที่ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความร่มเย็น ความสมบูรณ์ ความเจริญงอกงาม ความรุ่งเรือง ชีวิต และการสร้างสรรค์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ผสานกับการปรับตัวให้เข้ากับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ก้าวกระโดด ผ่าน “ตัวอักษรแบบพิกเซล (Pixel)” ตัวแทนของเทคโนโลยีอันชาญฉลาด หวังสร้างพลังแห่งความคิด การออกแบบ และการสร้างสรรค์
อย่างไรก็ดี ก้าวต่อไปของ DEmark กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนา เฟ้นหา และกระตุ้นให้นักสร้างสรรค์ ผู้ประกอบการ และนักออกแบบไทยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทยด้วยการออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสความต้องการของตลาดโลก พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการส่งออกของไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้