ปิดประตูรับเงินสด! 'จุลพันธ์' ยันแจกหมื่นเฟส2เป็นเงินดิจิทัล

ปิดประตูรับเงินสด!! “จุลพันธ์” การันตีกลุ่มรับหมื่นบาทเฟส 2 แจกเป็นเงินดิจิทัล โวรัฐบาลจำเป็นต้องวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล แจงแจกกลุ่มแรกเป็นเงินสดเพราะต้องการบูมเศรษฐกิจเร่งด่วน เตรียมตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียดหลังชง ครม. ยันรัฐบาลมีงบ 1.87 แสนล้านรองรับ ไม่ทิ้งแน่คนลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ 36 ล้านคน

16 ก.ย. 2567 – นายพิชัย ชุณหวิช รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะมีการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบการจ่ายเงินให้กลุ่มเปราะบาง จำนวน 14.5 ล้านคน ตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต และหลังจากนั้นจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับความชัดเจนของโครงการทั้งหมดด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังการปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2567 พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนราว 36 ล้านคน โดยหลังจากนี้คงไม่มีการขยายเวลาลงทะเบียนแล้ว กำหนดการยังเป็นไปตามเดิม โดยภาพรวมทั้งหมด มีประชาชนที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 41-42 ล้านคน จากกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน และประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ 36 ล้านคน โดยหลังจากนี้ก็ต้องมาตรวจสอบว่าทั้ง 2 กลุ่มมีชื่อซ้ำซ้อนหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อตรวจสอบทั้งหมดแล้วจะเหลือผู้ได้รับสิทธิ์อีกราว 24-25 ล้านคน

“เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอยากให้ใจเย็น ๆ โดยเฉพาะเฟส 2 อยากให้รอความชัดเจนหลัง ครม. ในวันที่ 17 ก.ย. ส่วนเฟสแรก นั้น ยืนยันว่าจะทยอยจ่ายวันละ 4-5 ล้านคน ใช้เวลาจ่ายราว 4 วัน เพราะเวลาจะเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เมื่อรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมีกี่คนโดยประมาณ และงบประมาณมีอย่างไร เอามาจากไหน และที่จะเติมวันไหน เริ่มจ่ายวันไหน ซึ่งระบบมีข้อจำกัด ดังนั้นก็อยากชี้แจงว่าคงจ่ายวันเดียวไม่เสร็จ ก็ต้องเป็นทยอยจ่ายไป” รมว.การคลัง ระบุ

ส่วนกรณีที่มีการเลื่อนประกาศรายชื่อประชาชนที่ได้รับสิทธิ์จากวันที่ 22 ก.ย. ออกไปนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไม่มีเงิน รัฐบาลมีเงินอย่างแน่นอน เพราะเราต้องรู้ว่าเวลาจะทำอะไรเราต้องมีสตางค์แน่นอนอยู่แล้ว แต่เมื่อเรามีเงินจำกัดก็ต้องรู้จักใช้เงินให้ถูกจังหวะและเหมาะสม เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มีการท้วงอยู่เรื่อยว่า ทำไมไม่เอาเงินไปดูแลปัญหาโครงสร้างที่เรามีอยู่ก่อน ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นจะต้องพิจารณาให้มันเกิดประโยชน์กับประเทศมากที่สุด

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า ผู้เข้าร่วมโครงการเฟส 2 จะไม่ได้รับเป็นเงินสด จะได้รับเป็นเงินดิจิทัล เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นจะต้องบรรลุวัตถุประสงค์ ในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ดังนั้นการเดินหน้าแอปพลิเคชันที่เป็นดิจิทัลวอลเล็ตจึงยังมีความจำเป็น ส่วนเฟสแรกที่ได้รับเป็นเงินสดนั้น เนื่องจากว่ามีข้อร้องเรียนมาว่าอยากให้การกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดได้โดยเร็ว อยากได้เป็นเงินสด รัฐบาลก็ยินดีปรับให้ เพราะกลุ่มที่อยู่ในเฟสแรกจะมีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดีพอ มีการใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลมีงบประมาณปี 2568 วงเงิน 1.87 แสนล้านบาทรองรับอยู่แล้ว ดังนั้นเงินจะถึงมือประชาชนทุกคนอย่างแน่นอน ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไร จะเดินหน้าอย่างไร จะมีการชี้แจงภายหลังการประชุมครม. ในวันนี้ (17 ก.ย.) ส่วนประเด็นเรื่องการล้มประมูลระบบนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เท่าที่ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้รับการยืนยันว่าอยู่ในกรอบเวลาที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว ส่วนรายละเอียดทั้งหมดไม่ทราบ เพราะไม่ได้กำกับดูแลในส่วนนั้น

“เฟส2 จะพยายามจ่ายให้เป็นเงินดิจิทัล 100% โดยกรอบคงอยู่ปีหน้าอย่างแน่นอน แต่จะไม่ให้นานขนาดนั้น ตอนนี้รัฐบาลเห็นภาพแล้วว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เพียงอยากให้มีการทดสอบระบบให้มั่นใจก่อนเดินหน้าโครงการ ยืนยันว่ากรอบเวลายังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนกระบวนการกระตุ้นเศรษฐกิจเดิมทีรัฐบาลอยากให้มีอิมแพคใหญ่ ก็อยากใส่เงินเข้าไปครั้งเดียว แต่ท้ายที่สุดเมื่อมีการปรับเปลี่ยน ก็ต้องปรับเปลี่ยนเป็นระยะ โดยกระบวนการต้องทำให้เกิดโมเมนตั้มกับเศรษฐกิจที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่รัฐบาลต้องการ” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเลื่อนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัล วอลเล็ต สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เนื่องจากประเมินว่าประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีสิทธิ์ได้รับเงินกลุ่มแรก ในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ซึ่งท้ายที่สุดเชื่อว่ากลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนจะเหลือน้อยมาก ๆ จึงจำเป็นจะต้องเลื่อนการลงทะเบียนออกไปก่อน ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ หลังปิดลงทะเบียน มียอด 36 ล้านคน ในส่วนนี้ก็ต้องเอารายละเอียดมาดูว่า มีชื่อซ้ำซ้อนอยู่ในกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนเท่าไหร่ และเหลือเท่าไหร่ รวมถึงต้องมาดูว่าระบบพร้อมหรือไม่ ส่วนงบประมาณยืนยันว่ามีแน่นอน 1.87 แสนล้านบาท

“การเลื่อนประกาศผลผู้ได้สิทธิ์ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น รัฐบาลไม่ได้ยึกยักอะไร เพียงแต่ว่ามีกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนที่ด่วนกว่าเข้ามาแทรก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมีกระบวนการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ 36 ล้านคน เอามาหัก 14.5 ล้านคนว่าเหลือเท่าไหร่ด้วย มันลบกันตรง ๆ ไม่ได้ มีขั้นตอนการทำงานภายในอีก โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทิ้ง 36 ล้านคน เพราะถึงประกาศไปก็ยังจ่ายเงินหลัง ธ.ค. 2567 อยู่ดี โดยรัฐบาลมีวิธีการบริหารจัดการให้ได้อยู่แล้ว” นายลวรณ กล่าว

ส่วนรายละเอียดของกลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการนั้น คงต้องรอความชัดเจนภายหลังการตั้งคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะดำเนินการตั้งภายในสัปดาห์นี้ ว่าจะมีเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ อย่างไร

เพิ่มเพื่อน