ปิ๊ง!ตั้งอินฟาสตรัคเจอร์ ฟันด์3แสนล. อุ้มรถไฟฟ้า20บาท ยันปีนี้เห็นชัดแน่

“พิชัย” ปิ๊งไอเดียผุดตั้งอินฟาสตรัคเจอร์ ฟันด์ วงเงิน 3 แสนล้านบาท อุ้มนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท แจงเร่งพิจารณารายละเอียดเต็มสูบ มั่นใจเห็นรูปร่างชัดเจนไม่เกินปีนี้

16 ก.ย. 2567 -นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนอินฟาสตรัคเจอร์ ฟันด์ เบื้องต้นตั้งเป้าวงเงินไม่เกิน 3 แสนล้านบาท ส่วนรายละเอียดทั้งหมดยังต้องขอเวลาในการพิจารณา โดยตัวเลขต่าง ๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของแนวคิด การวางข้อสมมุติฐาน การประเมิน ทั้งหมดยังต้องคุยกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดูว่าจะเป็นต้องมีการออกกฎหมายบางชนิดเพื่อช่วยเหลือหรือไม่ ดังนั้นคงยังไม่สามารถสรุปได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ แต่มั่นใจว่าจะเห็นความชัดเจนที่เป็นรูปเป็นร่างได้ภายในปีนี้แน่นอน

“เท่าที่คุยกับคมนาคม แน่นอนว่ารัฐบาลอยากเห็นประชาชนโดยสารรถไฟฟ้าทุกสายในราคาเริ่มต้น 20 บาท หลังจากนั้นค่อยขยับขึ้นทีละนิด เราก็เอาตรงนี้มาวางเพื่อจัดตั้งอินฟาสตรัคเจอร์ ฟันด์ โดยที่รัฐบาลคงไม่ต้องควักเงินแล้วที่เหลือ แต่อาจจะมีข้อผูกพันว่ารัฐบาลจะต้องดูแลอะไรบ้าง แปลว่าทั้งหมดอินฟาสตรัคเจอร์ ฟันด์จะเข้ามาดูแลแทน ดังนั้นกองทุนก็จะต้องรู้ตัวเองว่าจะต้องได้ผลตอบแทนจากการดูแลเท่าไหร่ ต้องไปหาผู้ที่สนใจว่าเป็นใคร ซึ่งก็น่าจะมี 2 กลุ่ม คือผู้ถือหน่วยลงทุนและผู้ที่ให้กู้ยืม ซึ่ง 2 ส่วนมีความต้องการผลตอบแทนไม่เท่ากัน ก็ต้องมาศึกษากัน ต้องประเมินภาพรผู้โดยสารในระยะ 1-2-5 ปี จนถึง 10 ปีว่ามีเท่าไหร่ หรืออยากจะให้อยู่ยาว ๆ ถึง 20-30 ปีจะเป็นอย่างไร หลังจากนั้นต้องมาประเมินว่าเราต้องการใช้เงินเท่าไหร่จากกองทุนฯ ตรงนี้เป็นวิธีปฏิบัติโดยทั่วไป” นายพิชัย กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะพยายามที่จะไม่ให้รัฐบาลต้องมาใส่เงินอุดหนุน เพราะต้องยอมรับว่าวันนี้การจัดเก็บภาษียังต่ำกว่าเป้าหมาย ยังติดลบอยู่ ดังนั้นจำเป็นต้องพยายามรักษาวินัย พยายามเอาสมบัติเก่าที่มีอยู่ ดึงสิ่งเหล่านี้กลับมาจัดให้รัฐบาลไม่ต้องเข้ามาอุ้มให้มากที่สุด

ขณะที่กองทุนรวมวายุภักษ์ ภายหลังจากเปิดขายวันแรก (16 ก.ย.) นั้น เชื่อว่ายอดจองจะมีเข้ามาอย่างล้นหลาม ซึ่งหากความต้องการโอเวอร์ซัพพลาย ตามหลักปฏิบัติก็ต้องมาดูว่าควรจะลดส่วนไหนเท่าไหร่ โดยต้องเป็นการลดในสัดส่วนที่อธิบายได้ โดยยืนยันว่าจะเน้นให้กับรายย่อยเข้าถึงก่อน ส่วนแนวทางการลงทุนของกองทุนฯ นั้น คงไม่ได้เข้าไปดู ปล่อยให้เป็นอิสระของกองทุนทำไปตามเงื่อนไข

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เชื่อว่ากระแสตอบรับจะเป็นไปอย่างดี โดยหลังจากเปิดจำหน่ายให้รายย่อย 5 วัน (16-20 ก.ย.) คงต้องมาดูยอดสรุปอีกที หลังจากนั้นคงจะต้องมาพิจารณาว่าจะจัดสรรอย่างไร

เพิ่มเพื่อน