'ปลัดคลัง' แจงยิบไทม์ไลน์แจกหมื่นบาท กดปุ่ม4วันจ่ายผ่านพร้อมเพย์ ยันเฟส2ไม่ล่ม

“ปลัดคลัง” แจงยิบไทม์ไลน์แจกดิจิทัลวอลเล็ต เฟสแรก หวยออกบัตรคนจน-คนพิการ รวม 14.5 ล้านคนรับก่อน ทยอยจ่าย 4 วันผ่านพร้อมเพย์ ยันเฟส 2 ไม่ล่มแน่ แต่ยังไม่ชัวร์ทันสิ้นปี 67 หรือไม่ พร้อมกางงบ 68 เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.87 แสนล้านบาท มั่นใจไตรมาส 4 จีดีพีโตก้าวกระโดด ดันทั้งปีนี้มีลุ้นแตะ 3%

13 ก.ย. 2567-นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบาง รวม 14.5 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุ โดยการแจกเงินจะมีการจัดกลุ่มเป็นลำดับคิวที่ชัดเจน และจะทยอยจ่ายเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อไม่ให้กระทบกับการจ่ายเงินเดือน หรือสวัสดิการอื่น ๆทั้งนี้ การแจกเงินจะแบ่งเป็น 4 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 25-26-27 และ 30 ก.ย. 2567 โดยในวันที่ 25 ก.ย. จะแจกเงินให้กับกลุ่มคนพิการ จำนวน 2.1 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0, และวันที่ 26 ก.ย. จะแจกเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1,2 และ 3 ส่วนวันที่ 27 ก.ย. จะแจกเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4,5,6 และ 7 ขณะที่วันที่ 30 ก.ย. นั้น จะดำเนินการแจกเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9

“จำเป็นต้องจัดเป็นกลุ่ม เป็นสล็อตๆ เฉลี่ยรอบละ 4-5 ล้านคน ซึ่งมองว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะสามารถโอนเงินให้ประชาชนได้ในช่วงเช้า และหลังจากที่รัฐบาลโอนเงินให้ประชาชนเรียบร้อยแล้ว ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวก็สามารถถอนเงินออกได้เลย โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ซึ่งหากใครยังไม่มีให้รีบดำเนินการ แต่หากผูกพร้อมเพย์ไม่ทันตามกำหนดจ่ายเงิน ยังยืนยันว่ายังได้รับสิทธิ์เช่นเดิม แต่จะได้รับเงินล่าช้าออกไป และต้องดำเนินการผูกพร้อมเพย์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ หากไม่ทัน เมื่อครบกำหนดจะทำการดึงเงินกลับคืน ส่วนกลุ่มผู้พิการนั้น จะดำเนินการจ่ายเงินผ่านช่องทางของกรามบัญชีกลาง ซึ่งจะมีการจ่ายเบี้ยคนพิการให้ทุกเดือนอยู่แล้ว” นายลวรณ กล่าว

ปลัดคลัง กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 2 นั้น รัฐบาลยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป เป็นสิ่งที่ต้องทำต่อ เพราะเป็นโครงการที่ถือเป็นอินฟาสตรัคเจอร์ของประเทศไทย เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในอนาคตที่จะนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เป็นการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล แต่จะพร้อมเมื่อไหร่ ทั้งหมดคงขึ้นอยู่กับระบบเป็นหลัก หากระบบแล้วเสร็จก็คงจะได้มีการจ่ายเงินให้ประชาชนในเฟสที่ 2 ต่อปี

“ยืนยันว่าคนที่ลงทะเบียนไว้แล้วก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงิน ไม่ได้ล้ม แต่ว่าหากได้ผ่านกลุ่มเปราะบางไปแล้วก็จะไม่ได้รับสิทธิ์อีก ส่วนถามว่าจะทันปีนี้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ โดยมองว่าเมื่อรัฐบาลได้จ่ายเงินให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรกไปแล้ว เชื่อว่าแรงกดดันของโครงการเรื่องการจ่ายเงินก็น่าจะลดลง หลังจากนี้รัฐบาลก็จะมีเวลาในการพัฒนาระบบให้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามข้อกังวลของหน่วยงาน โดยเฉพาะเรื่องการเร่งดำเนินการด้านระบบมากเกินไปจนทำให้อาจจะไม่ได้มีการทดสอบระบบอย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิดความมั่นใจ ดังนั้น ตรงนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะพัฒนาระบบเป็นอย่างดี และทดสอบจนเป็นที่มั่นใจ ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ก็ยังเปิดให้ลงทะเบียนตามกำหนดเดิมคือวันที่ 16 ก.ย. นี้ ผ่าน 3 ธนาคารัฐ ได้แก่ ออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งทั้ง 3 แห่ง มีความพร้อม ได้มีการประชุมซักซ้อมความเข้าใจกันหมดแล้ว” ปลัดคลัง ระบุ

สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดเรื่องงบประมาณนั้น นายลวรณ ระบุว่า ยืนยันว่าวันนี้รัฐบาลมีงบประมาณปี 2568 ที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.87 แสนล้านบาท ส่วนจะนำมาดำเนินการในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างไรบ้าง คงขึ้นอยู่กับการจัดสรร โดย ณ วันนี้มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ราว 32 ล้านคน เมื่อหักกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนไปแล้ว ก็ต้องมาดูว่ายังเหลือประชาชนที่จะได้รับสิทธิอีกเท่าไหร่ และจะดำเนินการจ่ายเงินอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย โดยทุกอย่างต้องเป็นไปทีละขึ้นตอน

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า เม็ดเงินจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะแจกให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. นี้ คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 1.45 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจ่ายมา เชื่อว่าจะส่งผลดีกับระบบเศรษฐกิจ ไม่ต้องรอให้ถึง ธ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดเดิมของโครงการ และเชื่อว่าปีนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวได้ถึง 3% อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2567 ที่จะได้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของจีดีพี จากเม็ดเงินของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง และยังมีปัจจัยหนุนจากการลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ ที่จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดทุนกลับมามีเสถียรภาพ มีความเชื่อมั่น และมีความมั่นใจ ขณะเดียวกันยังมีเม็ดเงินจากงบประมาณปี 2568 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค. 2567 ด้วยเช่นกัน ถือเป็นเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม ยื่นหนังสือค้านกระบวนการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

กลุ่มมวลชน ซึ่งเป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม