'แรมโบ้ เสกสกล' ลาออกจากบอร์ด IRPC หลังถูกแต่งตั้งไม่ถึง 1 เดือน

‘แรมโบ้ เสกสกล’ ลาออกจากบอร์ด IRPC มีผล 9 ก.ย. 67 หลังถูกแต่งตั้งได้ไม่ถึง 1 เดือน โดยผ่านการเสนอชื่อจาก บมจ.ปตท. 

8 ก.ย. 2567 นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 ว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรรมการอิสระ และ กรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืน ได้ลาออกจากการเป็น กรรมการอิสระ และกรรมการกำกับ ดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการอิสระ กํากับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืน IRPC ทดแทนนางประณต ติราศัย ในการประชุมบอร์ด IRPC เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2567 เป็นต้นไป เนื่องจากได้รับการเสนอชื่อจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้มีหนังสื่อที่ 80000001/550 ลงวันที่ 9 ส.ค. 67 และหนังสือที่ 80000001/55 ลงวันที่ 15 ส.ค. 67 เสนอชื่อบุคคลเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการทดแทนที่ลาออก

สำหรับ IRPC ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่จ.ระยอง ซึ่งเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมภายใต้การจัดการ ของบริษัทฯ โดยโครงสร้างการผลิตประกอบด้วยโรงงานปิโตรเลียม และโรงงานปิโตรเคมีพร้อมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจทั้งท่าเรือน้ำลึก คลังน้ำมัน และโรงไฟฟ้า

โดยธุรกิจปิโตรเลียม ได้ดำเนินธุรกิจกลั่นน้ำมัน โดยโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวม 215,000 บาร์เรลต่อวัน จัดอยู่ในอันดับ 3 ของกำลังการกลั่นน้ำมันในประเทศ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้หลากหลายชนิด ประกอบด้วย ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) แนฟทา น้ำมันเบนซีน ดีเซล และน้ำมันเตา นอกจากนี้บริษัทฯ มีโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (Lube Base Oil Group 1) กำลังการผลิต 320,000 ตันต่อปี

และยางมะตอยขนาดกำลังการผลิต 600,000 ตันต่อปี ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุดภายในประเทศ ยังถือเป็นโรงกลั่นรายแรกของประเทศไทยในการริเริ่มจำหน่ายยางมะตอยเกรด 40/50 เข้าตลาดในประเทศพร้อมด้วยคุณภาพมาตรฐานส่งออก มอก. นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบในการผลิตยางล้อรถ และยางสังเคราะห์ (Rubber Process Oil) ที่เป็นที่ยอมรับ และรับรองด้านคุณภาพในระดับสากล

ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น ได้แก่ โอเลฟินส์ อะโรเมติกส์ ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานปิโตรเคมีขั้นปลาย ประกอบด้วย เม็ดพลาสติกกลุ่มโพลิโอเลฟินส์ (HDPE, PP, UHMW-PE) ด้วยกำลังการผลิต 931,000 ตันต่อปี และเม็ดพลาสติกกลุ่มสไตรีนิคส์ (ABS, SAN, PS, EPS) ด้วยกำลังการผลิตรวม 383,000 ตันต่อปี เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลาสติกสำเร็จรูปชนิดต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า POLIMAXX

นอกจากนี้ธุรกิจปิโตรเคมียังมุ่งเน้นการก้าวไปข้างหน้า ปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งในด้านของสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีการผลิตที่เปลี่ยนไป ด้วยกาค้นคว้า วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ Paralene ผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมจากธรรมชาติ Recycled Compound Resin  เม็ดพลาสติกผสมรีไซเคิล Acetylene Black for Li-on Battery (Pim-L, Pim-AL) เป็นต้น

สำหรับ IRPC มีรายได้ครึ่งปีแรกของปี 2567 สุทธิกว่า 148,710 ล้านบาท ในงวดครึ่งแรกของปี 67 เพิ่มขึ้น  1% เมื่อเทียบกับงวดครึ่งแรกของปี 66 จากราคาขายเพิ่มขึ้น 9% ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันถึง 2,138 ล้านบาท ทำให้ EBITDA อยู่ที่ 6,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187% ดันกำไรสุทธิมาอยู่ที่ 812 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขายน้ำมันอากาศยาน Jet A1 มาตรฐาน JIG รองรับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกเติบโต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ม.เกษตรฯ ตั้ง 'เสกสกล' เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ คณะอุตสาหกรรมบริการ

นายจงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงนามในประกาศมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ

'เสกสกล-ประธานกนอ.สัมพันธ์' หารือขับเคลื่อนศก.สงขลา เร่งปรับปรุงสวัสดิการพนักงานกนอ.

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์