แจงยิบ กฟผ. ไม่ถูกบอนไซ พลังงานยันแค่ส่งเสริมภาคเอกชนผลิตไฟฟ้า

พลังงาน ย้ำรัฐไม่เอื้อทุนผูกขาดแต่ยังส่งเสริมเอกชนให้มีบทบาทในการผลิตไฟฟ้า เพื่อเพิ่มการแข่งขัน ยัน กฟผ. ไม่ถูกบอนไซ ชี้แผน PDP 2024 ยังผลิตไฟเพิ่มเกือบ 20,000 เมกะวัตต์

7 ก.ย. 2567 - นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงานถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์จากเวทีเสวนา “สาเหตุไฟฟ้าแพงประชาชนเดือดร้อนเพราะใคร?” โดยมีประเด็นสำคัญที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน กระทรวงพลังงานจึงขอชี้แจงดังนี้ ประเด็นค่าไฟแพงจากสัญญาที่รัฐเอื้อให้กับเอกชน ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีสัดส่วนการผลิตไฟที่น้อยลงนั้น นโยบายกระทรวงพลังงานในด้านหนึ่งคือ ส่งเสริมให้เอกชนมีบทบาทในการผลิตไฟฟ้า เพื่อเพิ่มการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้ประชาชนมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอในราคาที่เหมาะสม

โดยโครงสร้างค่าไฟฟ้าในเรื่องสัดส่วนความเป็นเจ้าของใน กฟผ. ไม่ได้ส่งผลทำให้ค่าไฟสูงขึ้นหรือต่ำลง เพราะเงินลงทุนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นกับเทคโนโลยีในขณะนั้น ๆ ที่อาจจัดหาโดย กฟผ. หรือเอกชน หากจัดหาโดย กฟผ. ก็จะส่งผ่านต้นทุนผ่านมูลค่าการลงทุนและค่าดำเนินการโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ถ้าจัดหาโดยเอกชนก็จะส่งผ่านต้นทุนผ่านค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment : AP) ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงก็มีการควบคุมต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าตามลำดับ เช่น เมื่อมีความต้องการไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจะเริ่มจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำที่สุดเป็นลำดับแรก ซึ่งจะอยู่ภายใต้กำกับดูแลโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

สำหรับ ประเด็นที่กล่าวถึงการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมากไปทำให้ต้องนำเข้า LNG ที่ราคาผันผวนนั้น ในการจัดทำร่างแผน PDP 2024 เน้นหลักการความมั่นคงระบบไฟฟ้า ต้นทุนค่าไฟที่เหมาะสมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยแผนจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดมากกว่า 50% จะนำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ๆ มาเป็นทางเลือกในแผน โดยจะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในโรงไฟฟ้าหลักลง และผสมไฮโดรเจนและก๊าซเพื่อช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) พร้อมกับใช้พลังงานหมุนเวียนทุกประเภทอย่างเต็มศักยภาพ เพิ่มทางเลือก เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก เทคโนโลยีแบตเตอร์รี่กักเก็บพลังงาน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นประเทศยังจำเป็นต้องพึ่งพาโรงไฟฟ้าหลักจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่ กฟผ. สามารถสั่งการเดินเครื่องเพื่อช่วยรักษาความมั่นคงของระบบเอาไว้ แต่ PDP ฉบับใหม่จะลดสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติลง คาดว่าปลายแผนคือปี 2580 จะพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 41% จากปัจจุบันแผนเดิมพึ่งพาระดับ 53% และยังยืนยันว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าช่วงปลายแผนยังมีการผลิตไฟเพิ่มเกือบ 20,000 เมกะวัตต์

“กระทรวงพลังงานยืนยันว่าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ โดยเอกชน ไม่ได้ทำให้หน่วยงานของรัฐคือ กฟผ. ถูกยึดโดยกลุ่มทุนพลังงาน ปัจจุบันรัฐยังคงถือหุ้นใน กฟผ. ทั้ง 100% และไม่มีเจตนาจะแปรรูปกิจการ กฟผ. ให้เป็นของเอกชน โดยโรงไฟฟ้าหรือระบบส่งที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ กฟผ. ก็ยังคงอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ กฟผ. และแผน PDP ฉบับใหม่ก็ไม่ได้ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ลดลงแต่อย่างใด” นายวีรพัฒน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะปล้นปชช.หรือ 'วัชระ' จี้ถาม 'พีระพันธุ์' ยกเลิกโรงไฟฟ้าสุราษฎร์-ค่าไฟฟ้าราคาแพง

'วัชระ'กัดไม่ปล่อย! จี้ 'พีระพันธุ์' เหตุยกเลิกก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่สุราษฎร์ธานี 1,400 เมกะวัตต์ 2 โรง จะย้ายไปภาคตะวันตกโดยไม่ให้กฟผ. เป็นผู้รับผิดชอบก่อสร้าง แต่ให้บริษัทเอกชนแทน อีกทั้งปัญหาค่าไฟฟ้าราคาแพงมหาศาลกว่าเดิม จะไม่เป็นการปล้นประชาชนหรืออย่างไร

ปตท.โกยกำไรครึ่งปี 6.4 หมื่นล้านบาท โต 34%

ปตท.โกยกำไรครึ่งปี 6.4 หมื่นล้านบาท โต 34% สะท้อนกลุ่มปิโตรเคมี-การกลั่นน้ำมันโต จับตาปรับแผนธุรกิจ ส่งอินโนบิก หาพาทเนอร์ร่วมทุน พร้อมเขย่ากลุ่มอีวี มุ่งเน้นการพัฒนาสถานีชาร์จเป็นหลัก ลั่นสิ้นปีนี้เห็นเงินลงทุน 5 ปี