'AOTGA' รุกเปิดศูนย์กระจายสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

‘AOTGA’ ทุ่ม150 ล้านเปิดศูนย์กระจายสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้บริการศุลกากรเบ็ดเสร็จในที่เดียวแห่งแรกในไทย ตั้งเป้าปีแรกมีปริมาณขนส่งกว่า 4-5 หมื่นตัน สร้างรายได้ 80 ล้าน เผยพร้อมร่วมชิงศึกประมูลให้บริการภาคพื้น-คาร์โก้ หวังดันรายได้แตะ 6 พันล้าน

6 ก.ย.2567-นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บพท.) หรือ AOTGA ผู้ให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยาน และบริการคลังสินค้าในท่าอากาศยาน (Cargo Terminal) เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดตัว “ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า” (Multimodal Transportation Center) ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) วันนี้ (5 ก.ย. 2567) ว่า ตามที่กรมศุลกากรได้อนุญาตให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในฐานะบริษัทแม่ฯ เป็นผู้จัดตั้งศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า และได้มอบหมายให้ AOTGA (บริษัทลูกของ ทอท.) เป็นผู้ดำเนินการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้านั้น

ทั้งนี้  AOTGA ได้ลงทุนมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 4,872 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในการจัดตั้งศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าแห่งแรกในประเทศไทย และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งจะเป็นศูนย์บริการขนส่งสินค้าผ่านแดนครบวงจรรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ พร้อมดำเนินพิธีการศุลกากรได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ซึ่งช่วยสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ สนับสนุนการเติบโตของ E-Commerce รวมถึงยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอย่างแท้จริง

นายสิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า AOTGA ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในปีแรกของการเปิดให้บริการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า หรือปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567-ก.ย. 2568) จะมีปริมาณการขนส่งได้กว่า 40,000-50,000 ตัน จากการรองรับการขนส่งสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวมกว่า 1.2 ล้านตันต่อปี โดยจะสร้างรายได้ให้กับ AOTGA ประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าแล้วประมาณ 10 ราย โดยเฉพาะพันธมิตรธุรกิจขนส่งชั้นนำระดับโลก 3 ราย ได้แก่ เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (DHL) และบริษัท เอเชีย กราวด์ เซอร์วิส จำกัด (AGS)

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายให้บริการกลุ่มลูกค้า อาทิ ผู้ประกอบการขนส่งทั้งในและต่างประเทศที่เป็นตัวแทนในการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) และผู้ประกอบการของเร่งด่วน (Express Consignment) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการมุ่งเน้นใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในกลุ่มประเทศ CLMV และกลุ่มสินค้า E-Commerce จากปัจจัยเกื้อหนุนด้านการบิน และเครือข่ายการบินที่เชื่อมโยงสู่ทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป

นายสิริวัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมผลประกอบการของ AOTGA ในปี 2567 ว่า คาดการณ์ว่า ในปี 2567 จะมีรายได้รวมกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจการทำความสะอาด 6 ท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 500 ล้านบาท และรายได้จากบริการภาคพื้นประมาณ 2,500 ล้านบาท ส่วนในปี 2568 คาดการณ์จะมีรายได้รวมประมาณ 3,800-3,900 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจการทำความสะอาด 6 ท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 500 ล้านบาท และรายได้จากบริการภาคพื้นประมาณ 3,300-3,400 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตามที่ ทอท. จะเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดิน สนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 นั้น ยืนยันว่า AOTGA พร้อมเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน โดยจะนำเอาประสบการณ์จากการดำเนินการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตมาใช้ รวมทั้งจะเข้าร่วมประมูลให้บริการคลังสินค้า (Cargo) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งเชื่อว่า หากเป็นผู้ชนะการประมูล จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มอีก 1 เท่าตัว หรือมีรายได้รวมกว่า 6,000 ล้านบาท

สำหรับศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า แบ่งเป็นพื้นที่ให้บริการ 2 ส่วน ได้แก่  1. Fixed Area พื้นที่สำหรับผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมประกอบกิจการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า และ 2. Public Area พื้นที่ที่ทาง AOTGA ให้บริการเอง นอกจากนี้ AOTGA ยังได้นำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาให้บริการในศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า อาทิ ระบบติดตามทางศุลกากรจากด่านศุลกากรมายังศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าด้วยระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ (E-lock System) และระบบควบคุมสินค้าคงคลัง (E-Inventory) ด้วย

เพิ่มเพื่อน