'คมนาคม' ถกร่วม 'CIB-ป.ป.ท.-ป.ป.ช.' ขู่เพิ่มโทษส่วยรถบรรทุก

‘คมนาคม’ บูรณาการ CIB – ป.ป.ท. – ป.ป.ช. จับกุมเจ้าหน้าที่ ทล. เรียกรับส่วยรถบรรทุก พร้อมเร่งศึกษาข้อกฎหมายเพิ่มโทษให้หนักขึ้น เน้นย้ำ ‘ส่วยสติกเกอร์ส่วยทางหลวง’ต้องหมดไปในรัฐบาลนี้

3 ก.ย.2567-นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา โฆษกกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมข้าราชการกรมทางหลวง (ทล.) ที่เรียกรับส่วยรถบรรทุก โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงคมนาคม กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ในการดำเนินการตามนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว,คมนาคม ที่ให้บังคับใช้กฎหมายจัดการและแก้ไขปัญหารถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อ    ทางหลวงแผ่นดินหรือมีสภาพทรุดทรุดโทรมก่อนช่วงเวลาที่ได้ออกแบบไว้ และอาจจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย และสร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว โดยมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ประจำสถานีด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุกทั่วประเทศ ครั้งละไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความคุ้นเคยของเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการขนส่ง การนำเทคโนโลยีระบบตรวจวัดสามมิติ (3D Measurement System) ร่วมกับด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุกในขณะรถวิ่ง (Weight in Motion: WIM) พร้อมทั้งระบบกล้องถ่ายป้ายทะเบียน (LPR)           เพิ่มสถานีตรวจสอบน้ำหนักและจุดจอดพักรถบรรทุก รวมถึงหน่วยชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนงานและงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์ให้ครอบคลุมโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบางรายที่เรียกรับผลประโยชน์จากการปฏิบัติงาน กระทรวงคมนาคมจึงประสานงานกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายนพดล แสนงาย ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลอาวุโส หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักอุบลราชธานีขาออก ทล. และเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ Spot check นายอเนก คำโฉม ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลชำนาญงาน หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักด่านขุนทด ขาเข้านครราชสีมา และนายธงชัย      เต็มฟอม พลเรือนทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อคอยเคลียร์กับผู้ประกอบการรถบรรทุก

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยึดมั่นในการกวาดล้างส่วยสติกเกอร์รถบบรรทุกที่น้ำหนักเกิน โดยในปีที่ผ่านมาได้ตรวจสอบการบรรทุกน้ำหนักมากกว่า 30 ล้านครั้ง และสามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ถึง 2,600 ครั้ง อีกทั้งได้เร่งศึกษาและพิจารณาถึงการแก้ไขข้อกฎหมาย เพื่อกำหนดบทลงโทษให้หนักและเข้มงวดมากขึ้น  ซึ่งปัจจุบันอยู่ในชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดจะได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง เพื่อขยายผลต่อไป

“รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าปัญหาส่วย   ทางหลวง ส่วยสติกเกอร์ จะต้องหมดไปในยุคของรัฐบาลนี้ ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดย ทล. จะแก้ไขปัญหาไม่ให้ลุกลามต่อไป” นายกฤชนนท์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คาดอุโมงค์สร้าง 'ไฮสปีด' ถล่มเกิดจากน้ำซึมเข้าสู่ชั้นดินด้านบนของอุโมงค์

‘สุรพงษ์’ ลงพื้นที่ตรวจสาเหตุดินถล่มในอุโมงค์สร้างรถไฟความเร็วสูงคลองไผ่ คาดเกิดจากฝนตกต่อเนื่อง มีน้ำซึมเข้าสู่ชั้นดินบริเวณด้านบนของอุโมงค์ สั่งเร่งดำเนินการตักดินที่ถล่ม พร้อมค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มความสามารถ

'สุริยะ' สั่งตั้งคณะทำงานสอบเหตุอุโมงค์ไฮสปีดถล่มเร่งช่วยคนงานติดในอุโมงค์

‘สุริยะ’สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อหาเท็จจริงเหตุอุโมงค์รถไฟไฮสปีดถล่ม ย้ำผู้รับเหมาต้องไม่เกิดขึ้นอีก หากเกิดซ้ำโดนบทลงโทษขั้นสูงสุด ขณะที่การช่วยเหลือคนงาน เร่งสอดท่ออากาศที่ใช้ปั๊มออกซิเจนเข้าไปภายในบริเวณที่คนงานติดอยู่ ก่อนสอดท่อช่วยชีวิต