ทอท.ปัดฝุ่นแผนพัฒนาสุวรรณภูมิระยะ10ปี

ทอท.เร่งปรับปรุงแผนแม่บทพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิระยะ 10 ปีใหม่  พร้อมเปิดไทม์ไลน์แผนแม่บทศึกษาแล้วเสร็จฉบับใหม่สมบูรณ์ ก.พ.68 เดินหน้าประกวดราคาก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารทางด้่านทิศใต้มูลค่า 1.4 แสนล้านบาท-รันเวย์ 4 ทันทีในต้นปี 70 ก่อนเปิดให้บริการปี 74

28 ส.ค. 2567 -นายกีรติ  กิจมานะวัฒน์  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาศักยภาพขยายขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิในระยะ 10 ปี ( 2567-2577) ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.68 จากนั้นจะเร่งดำเนินการตามแผนพัฒนา เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งมีเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ในแผนแม่บทฉบับใหม่ ทอท.จะเร่งดำเนินการ โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (Sou Termina)) วงเงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางวิ่ง(รันเวย์) เส้นที่ 4 วงเงินลงทุน ประมาณ 20,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ตามแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินฉบับใหม่ ตามขั้นตอนเมื่อมีการศึกษาแล้วเสร็จก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบในรายละเอียด ซึ่งในส่วนของอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ จะใช้เวลาในการออกแบบรายละเอียดประมาณ 14 เดือน ขณะที่รันเวย์ 4 จะใช้เวลาในการออกแบบประมาณ10 เดือน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะใช้เวลาเร็วสุด  3เดือน และน่าจะเปิดประกวดราคาหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้างได้ในเวลาใกล้เคียงกัน ในช่วงต้นปี 70  ซึ่งอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ4ปีครึ่ง และจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 74 ส่วนรันเวย์ 4 จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี  เปิดใช้งานได้ในปี 73 

สำหรับสาเหตุที่ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงแผนแม่บทให้เป็นฉบับใหม่ เนื่องจากในปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิประสบปัญหาเกี่ยวกับอาคารผู้โดยสารหลังหลัก( Main Terminal) เนื่องจากไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับจอดรถรับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าอาคาร เพราะพื้นที่ยาวแค่400 เมตรเท่านั้น ดังนั้นจึงเกิดความแออัด แต่อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ที่จะเกิดขึ้นใหม่ในการออกแบบก่อสร้างจะช่วยเพิ่มพื้นที่จอดรถรับ-ส่งด้านหน้าอาคารให้ยาวขึ้นประมาณ2 กิโลเมตร(กม.) ในลักษณะรูปตัวU ซึ่งรถที่มารับ-ส่งสามารถกระจายจอดได้อย่างสะดวกขึ้นไม่ติดขัด ขณะเดียวกันตรงกลางตัวU จะมีห้างและพื้นที่เชิงพาณิชย์ อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เดินทางมาถถึงสนามบินเร็วโดยไม่จำเป็นต้องไปรอที่อาคารผู้โดยสารทันทีสามารถเดินพักผ่อนคอยก่อนได้ ทั้งนี้เมื่ออาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้แล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 80 ล้านคนต่อปี 

นายกีรติ  กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ (North Expansion)นั้น ในแผนแม่บทฉบับใหม่จะยังไม่เป็นโครงการเร่งด่วนที่จะต้องเร่งก่อสร้าง แต่ยังอยู่ในแผนแม่บทที่จะต้องพิจารณาในอนาคต  สำหรับส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันออก (Eest Expansion) วงเงินลงทุนประมาณ10,000 ล้านบาท นั้น ขณะนี้ออกแบบเสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ทอท.พิจารณาในเดือน ก.ย. ก่อนส่งเรื่องให้ที่ประชุม ครม.พิจารณารับทราบ ก่อนเริ่มดำเนินการเปิดประมูลในเดือนธ.ค.นี้ สำหรับการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันตก (West Expansion) นั้นต้องทบทวนแผนแม่บทให้เสร็จก่อนจากนั้นก็จะออกแบบรายละเอียด ซึ่งจะมีกระบวนการเหมือนกับอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปรบมือ ตร.ท่องเที่ยวพะงันทำงานรวดเร็ว ช่วยสาวอิสราเอลได้กระเป๋าเงินคืน

11 ส.ค.2567 – เมื่อวันที่ 10 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งว่านักท่องเที่ยวชื่อ MISS NOGA LEV อายุ 24 ปี สัญชาติ อิสราเอล เดินทางมายังหน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเวลา 19.00 น ว่าตนเองได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นบริเวณหน้าเซเว่นอีเลฟเวน สาขาศรีธนู ม.8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และได้มีหญิง ไม่ทราบสัญชาติ ลักษณะเป็นหญิงสาวเอเชีย ได้หยิบกระเป๋าผู้แจ้งขึ้นมาแล้วหยิบเอาไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 00:30 น. ได้รายงานให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันออกสืบสวนสอบสวนบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลา 19:30 น. ของวันที่ 10 สิงหาคม 2567 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันเก็บรวบรวมข้อมูล พยาน หลักฐาน จึงได้ออกสืบสวนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง บริเวณรอบนอก พบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่หน้าร้านอาหาร บริเวณบ้านศรีธนู เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบผู้ต้องสงสัย รูปพรรณตรงตามหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามผู้ต้องสงสัยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบชื่อ นางสาวจุฑารัตน์ เทพทุ่งหลวง สัญชาติไทย อายุ 23 ปี นางสาวจุฑารัตน์ให้การยอมรับ ตนเองได้ไปที่เซเว่นอีเลฟเว่นจริงเพื่อไปซื้อสินค้า และได้พบกระเป๋าสตางค์สีน้ำเงินลายดอกไม้ วางอยู่บนพื้นหน้าตู้กดเงินสด ตนจึงได้หยิบกระเป๋าสตางค์ใบนั้นขึ้นมาและเดินเข้าไปข้างในเซเว่นอีเลฟเว่น โดยมีการเปิดดูเพียงเล็กน้อยทราบว่าบัตรและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตนเองก็ได้ทำการเลือกซื้อสินค้าต่อ จนกระทั่งเลือกซื้อสินค้าเสร็จและได้เดินมาชำระเงินที่เคาท์เตอร์ได้เดินออกจากร้านพร้อมสินค้าและกระเป๋าสตางค์ ได้เอาเงินผู้เสียหายไปใช้จำนวน 2,959 บาท เบื้องต้นเชิญตัวพบพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อสอบปากคำ และ ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป ทั้งนี้ MISS NOGA LEV นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมตำรวจท่องเที่ยวในการช่วยเหลือตนได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวตามนโยบายกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว.

นายกฯ ชมตำรวจท่องเที่ยวบริเวณสนามหลวง เซย์ฮัลโหล นทท.จีน ชวนเที่ยวไทย

นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจท่องเที่ยว ชม นำเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกนทท. สั่ง เพิ่มกำลังพลตร.-สายตรวจจักรยานรับเซย์ฮัลโหลนักท่องเที่ยวจีน พร้อมชวนเที่ยวไทยอีก