'คมนาคม' เร่งลงทุนเรือครุยส์เกาะสมุย จ่อประมูลปี68 ปักธงเปิดใช้75

สุริยะ – มนพร’ลงพื้นที่เกาะสมุย เร่งยกระดับโครงข่ายคมนาคม ลุยขยายถนนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เร่งท่าเรือท่าเทียบเรือ Cruise Terminal มูลค่า 1.2 หมื่นล้าน ปักธวเปิดประมูลปี68  คาดเริ่มสร้างปี 72 เปิดให้บริการปี 75 หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว หนุนเดินทางสะดวก

24 ส.ค.2567-นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันนี้ (24 สิงหาคม 2567) เกาะสมุยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของไทย และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้และส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยอย่างมาก ดังนั้น กระทรวงคมนาคม  มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอีกหลายด้าน ทั้งทางอากาศ ทางถนน และทางน้ำ เพื่อรองรับการเติบโตของพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำหรับการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงของกรมทางหลวง (ทล.) อยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 สายทาง  รวมระยะทาง 69.922 กิโลเมตร (กม.) ได้แก่ โครงการก่อสร้าง ทล.4142 ตอน บ้านใน – บ้านโฉ – ขนอม ระยะทาง 47.513 กม. โครงการก่อสร้าง ทล.4014 ตอน คลองเหลง – ขนอม ระยะทาง 17.530 กม. และโครงการก่อสร้าง ทล.4170 ตอน สระเกศ – หัวถนน (ขยายเพิ่มช่องจราจรเต็มเขตทาง) ระยะทาง 16.346 กม.

ทั้งนี้ การดำเนินการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวนั้น เพื่อพัฒนาเส้นทางให้มีความสะดวกปลอดภัย ในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญภายในเกาะสมุยไปยังท่าเรือเกาะแตน รองรับเส้นทางสะพานเชื่อมระหว่างเกาะสมุยกับบนฝั่งในอนาคต อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเพื่อสุขภาพ เนื่องจากมีเส้นทางจักรยานส่งเสริมการออกกำลังกาย ในสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดการพัฒนาโครงการก่อสร้าง ทล.4170 ตอน สระเกศ – หัวถนนด้วย

นอกจากนั้น ยังได้ลงพื้นที่ถนนสาย ทล.4169 สายทางรอบเกาะสมุย ติดตามงานป้องกันและอำนวยความปลอดภัย หลังก่อสร้างแล้วเสร็จถนนสายนี้ในช่วงหน้าฝนเกิดหินและดินสไลด์ ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้ทางไม่ได้รับความสะดวกและปลอดภัย ดังนั้น จากนโยบายของรัฐบาลจึงได้เร่งรัดโครงการก่อสร้าง ทล.4169  สายทางรอบเกาะสมุย ระยะทาง 50 กิโลเมตร

“ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จตลอดสาย และเปิดให้ประชาชนสัญจรแล้ว  แต่ยังเหลืองานป้องกันและอำนวยความปลอดภัยที่ต้องดำเนินการต่อสำหรับพื้นที่จุดนี้ เนื่องจากในช่วงหน้าฝน มักเกิดเหตุหินและดินสไลด์กีดขวางเส้นทางสัญจร สั่งการให้ ทล. เร่งรัดดำเนินการสำรวจและศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างแนวป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยให้คำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ”นายสุริยะ กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ ทล. เข้าศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของการจราจรภายในเกาะสมุย เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ

ขณะเดียวกันให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินการเรื่องการปรับปรุงถนนทางเชื่อมต่อจากทิศตะวันออกมายังทิศตะวันตก โดยการนำผลการศึกษาเดิมนำมาปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยล่าสุดจะให้ส่วนท้องถิ่นโอนย้ายการดูแลมาให้ ทช. ดำเนินการพัฒนาต่อไป

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า ในส่วนของกรมเจ้าท่า (จท.)  ได้ศึกษาและพัฒนาโครงการท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) บริเวณแหลมหินคม เกาะสมุย มูลค่าการลงทุนรวม 12,172 ล้านบาท โดยได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อเป็นการส่งเสริมรายได้เข้าจังหวัดและเข้าประเทศมากยิ่งขึ้น รวมถึงยกระดับการท่องเที่ยวเรือสำราญที่เข้ามาเทียบท่าเกาะสมุย ซึ่งในแต่ละปีมีจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีและประเทศชาติอย่างมหาศาล ซึ่งจากการวิเคราะห์โครงการพบว่า พื้นที่บริเวณแหลมหินคม ตำบลตลิ่งงาม มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งด้านวิศวกรรมที่มีกำบังคลื่นลมโดยธรรมชาติ อยู่ใกล้เขตน้ำลึก และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาท่าเรือ

ขณะที่ในด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง ไม่มีพื้นที่อ่อนไหว และไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ส่วนด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นพื้นที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์และมีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค ต้นทุนและค่าใช้จ่ายของโครงการตลอดระยะเวลา 37 ปี มีความคุ้มค่าในการลงทุนด้านเศรษฐกิจ โดยมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตลอดอายุโครงการประมาณ 46,000 ล้านบาท และมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์มากกว่า 15%

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้วิเคราะห์แล้วเห็นว่า การร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost มีความเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐ โดยมีเอกชนเป็นเจ้าของรายได้และเป็นผู้รับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งหมด สำหรับสถานะโครงการในปัจจุบัน จท.ได้ส่งหลักการการร่วมทุนและรายละเอียดผลการศึกษาโครงการ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2567 คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการได้ในปี 2567 หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนประกวดราคาราวปี 2568 ก่อนเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2572 และเปิดให้บริการในปี 2575

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' นำภาครัฐ เอกชน ทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 1.2 ล้านชิ้น

“ภูมิธรรม”นำภาครัฐ เอกชน ทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 325 ล้านบาท สร้างความเชื่อมั่นคู่ค้า นักลงทุน เจ้าของสิทธิ์ สินค้าปลอมจะไม่กลับคืนสู่ตลาดอีก และดูแลผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ มาตรฐาน