เช็กด่วน บขส.แจ้งเปลี่ยนเส้นทาง 'กรุงเทพฯ-เชียงคำ' หลังน้ำท่วมผ่านไม่ได้

บขส. แจ้งเส้นทาง ‘กรุงเทพฯ-เชียงคำ’ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคเหนือ รถผ่านไม่ได้ พร้อมปรับเปลี่ยนเส้นทางวิ่ง กำชับ!! เจ้าหน้าที่-นายสถานีเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มปลอดภัยในการเดินทาง

23 ส.ค.2567-นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วมฉับพลัน) น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย และ พื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ถนนไม่สามารถเดินทางได้นั้น ปัจจุบัน บขส. ได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางเดินรถพบว่า ได้รับผลกระทบ 1 เส้นทาง คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงคำ เนื่องจากสะพานบ้านทุ่งหนอง ทางหลวงหมายเลข 1091 พื้นที่ ต.สระ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เกิดการทรุดตัวจากฝนตกหนักและมีน้ำป่าไหลหลาก รถโดยสารไม่สามารถผ่านได้ ต้องปิดถนนชั่วคราว และอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข

ดังนั้น บขส. จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถบางช่วง ดังนี้ เที่ยวกลับ (ขาล่อง) ออกจากสถานีเดินรถเชียงคำ ไปรับผู้โดยสารจุดจอดดอนเงิน จุดจอดปง และย้อนกลับมาออกยัง อ.จุน และใช้เส้นทาง อ.ดอกคำใต้ อ.งาว กลับสู่เส้นทางปกติ ส่วนเที่ยวไป (ขาขึ้น) ใช้เส้นทาง อ.งาว อ.ดอกคำใต้ อ.จุน อ.ปง เพื่อส่งผู้โดยสารจุดจอดปง จุดจอดดอนเงิน และกลับสถานีเชียงคำในเส้นทางเดินรถปกติ  ทั้งนี้หากดำเนินการแก้ไขสะพานบ้านทุ่งหนองแล้วเสร็จและเปิดให้รถโดยสารวิ่งผ่านได้ บขส. จะกลับมาใช้เส้นทางเดินรถปกติต่อไป

นายอรรถวิท กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้นายสถานีเดินรถในพื้นที่ภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากพบว่าเส้นทางไหนได้รับผลกระทบ มีน้ำท่วมสูง ไม่สามารถผ่านได้ ให้แจ้งทันที เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถให้เหมาะสมและแจ้งผู้โดยสารให้ทราบต่อไป ขณะเดียวกันจากสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว อาจทำให้บางเส้นทางเดินรถในพื้นที่ภาคเหนือเกิดความล่าช้า บขส. ต้องกราบขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วย

นอกจากนี้ ยังได้กำชับพนักงานขับรถทุกเส้นทางให้ตระหนักถึงความปลอดภัย ตรวจสอบความพร้อมสภาพรถโดยสาร เช่น สภาพยาง, ก้านปัดน้ำฝน, ไฟหน้า-หลัง, ระบบเบรก, เข็มขัดนิรภัย ก่อนให้บริการเป็นพิเศษ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคุมความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อเจอฝนตก สภาพถนนเปียก เส้นทางที่น้ำท่วมขัง ให้ใช้ความเร็วลดลง ใช้ความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น ไม่ขับขี่โดยประมาท รวมทั้งจัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 6 ชั่วโมง และพนักงานขับรถต้องได้รับการตรวจสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ เพื่อส่งผู้โดยสารถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่น้ำโขงนครพนมเริ่มล้นตลิ่ง ไหลท่วมนาข้าวแล้วกว่า 5 พันไร่ จ่อขยายวงกว้าง

มีความคืบหน้าสถานการณ์ระดับแม่น้ำโขง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังเพิ่มระดับต่อเนื่อง นอกจากมีฝนตกหนักในพื้นที่แล้ว ยังมีมวลน้ำจากทางเหนือไหลมาสมทบ ทำให้ปริมาณน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดวันที่ 22 สิงหาคม 67 วัดได้ 9.60 เมตร เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 10 -20 เซนมิเมตร

ภาคเหนืออ่วม 'คมนาคม' สั่งหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชม.

‘สุริยะ’ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ จ.เชียงรายอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. มอบหมาย ’ทล.-ทช.’ส่งเจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน จัดเตรียมบุคลากร-อุปกรณ์-เครื่องมือบรรเทาภัยให้พร้อม

'สุทิน' ลั่นทหารพร้อมตลอดเวลา หากเกิดน้ำท่วมภัยพิบัติก็ลงพื้นที่โดยอัตโนมัติ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมรับมือน้ำสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ตนได้สั่งการกองทัพไปเรียบร้อยแล้ว มอบนโยบายไปว่าหากเกิดภัยพิบัติพื้นที่ไหนให้ออกปฏิบัติโดยอัตโนมัติ

ภาคเหนืออ่วม ‘คมนาคม’ สั่งหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชม.

‘สุริยะ’ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ จ.เชียงรายอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. มอบหมาย ’ทล.-ทช.’ส่งเจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน จัดเตรียมบุคลากร-อุปกรณ์-เครื่องมือบรรเทาภัยให้พร้อม

'ภูมิธรรม' ทำหน้าที่แทนนายกฯ อิ๊งค์สั่งเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ

'ภูมิธรรม' ห่วงใย ปชช. ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ สั่งการระดมช่วยเหลือ เร่งคลี่คลายสถานการณ์

น่านอ่วม! น้ำท่วมหลายอำเภอ น้ำป่าทะลัก เตือนขนของขึ้นที่สูงด่วน

จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2567 จังหวัดน่าน ได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่หลายอำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา