'พิชัย' ปัดไม่รู้เรื่องปั้น ครม.อุ๊งอิ๊ง1 วอนรอรัฐบาลใหม่สรุปแจกหมื่นบาท

“พิชัย” ปัดไม่รู้เรื่องอยู่่-ไม่อยู่ ครม.อุ๊งอิ๊ง1 พร้อมแจงรอรัฐบาลใหม่สรุปแจก 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เชื่อจะมีเส้นทางที่ดีที่สุดและเป็นไปตามกฎหมาย มองบาทแข็งโป๊กยังไม่น่ากลัว ชี้สะท้อนความเชื่อมั่้นตลาด เงินไหลเข้ามากขึ้น

21 ส.ค. 2567 -นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีการฟอร์มทีมของรัฐบาลนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีทั้งกระแสข่าวว่านายพิชัยจะเข้าร่วมและไม่เข้าร่วมรัฐบาล ว่า “ผมไม่ทราบเรื่อง”

ส่วนความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นั้น นายพิชัย ระบุว่า รอให้รัฐบาลใหม่ที่กำลังจัดตั้งสรุปรายละเอียดอีกที ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนวิธีการแจกเป็นเงินสดแทนนั้น นายพิชัย กล่าวว่า อยากให้รอดูความชัดเจนอีกทีว่าจะเป็นเส้นทางไหนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และต้องเป็นไปตามกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะนำมาซึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหลาย ถือเป็นสิ่งจำเป็นของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ ดังนั้นเมื่อเป็นสมัยใหม่ การที่รัฐบาลจะทำเรื่องนี้ผลประโยชน์สำคัญที่ได้ไม่เพียงแค่กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดิจิทัลแพลตฟอร์มยังเป็นเส้นทางที่จะเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ตรงนี้เป็นอีกประโยชน์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน

“ขนาดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เริ่ม ผมก็เห็นว่าคนทั้งประเทศคุยกันเรื่องดิจิทัล ผมก็มั่นใจว่าคนทยเริ่มรู้จักและศึกษาเรื่องดิจิทัลมากขึ้ันเรื่อย ๆ ก็เป็นประโยชน์ของประเทศอีกทาง” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์การแข็งค่าขึ้นของเงินบาท ว่า ยังไม่ได้อยู่ในวิสัยที่ดูแล้วน่ากลัว ซึ่งส่วนตัวดูแล้วเป็นไปตามความเชื่อมั่นของตลาด แปลว่าเงินคงจะไหลเข้ามามากขึ้น ดังนั้นการขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนแบบนี้ คิดว่ามันยังอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ เพราะทางหนึ่งก็จะเสียเปรียบ แต่ทางหนึ่งก็จะได้เปรียบ ซึ่งท้ายที่สุดมันก็จะเกิดความสมดุล

ทั้งนี้ หากเราทำตัวให้ดีในอาเซียน เงินก็คงไหลเข้าภูมิภาค เมื่อเงินมันไปในทิศทางนั้น ประเทศไทยก็ต้องมาดูว่าจะทำตัวอย่างไร ที่จะทำให้สินค้าของเรามีคุณภาพมากขึ้นและเป็นที่ต้องการของชาวโลกมากขึ้น

ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยนั้น เป็นเรื่องที่อยู่ในการพิจารณาของคนที่ดูแลเรื่องนี้ แต่ต้องยอมรับว่าอัตราดอกเบี้ยจะปผูกกับเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อของประเทศไทยค่อนข้างแปลก เพราะปัจจุบันเงินเฟ้อต่ำ แต่คนกลับมีความรู้สึกว่าของแพงขึ้น ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจจะเห็นว่าค่อย ๆ ไหล ถือเป็นวิกฤติอีกแบบที่เศรษฐกิจค่อย ๆ ซึมลงมา ซึ่งวันนี้เรารู้ตัวและรู้ว่าต้องเร่งแก้ไข แต่มาตรการต่าง ๆ ไม่ได้มีอย่างเดียว และเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็เป็นแค่หนึ่งในมาตรการเท่านั้น