ทล.ชี้ขยายสัมปทานโทลล์เวย์เพื่อแลกกับลดค่าผ่านทางไม่คุ้มค่า

“ทางหลวง” เปิดผลการศึกษาการปรับขึ้นค่าผ่านทาง “ดอนเมืองโทลล์เวย์” สรุปยังไม่ขยายสัมปทานเพื่อแลกกับลดค่าผ่านทาง ชี้ภาพรวมไม่คุ้มค่า แนะรอหมดสัมปทานในปี 77 ลุ้นไม่เก็บค่าผ่านทาง-20 บาทเท่านั้น วอนเอกชนจัดโปรโมชั่นเอาใจผู้ใช้ทาง ส่งคูปองส่วนลด 5% บรรเทาค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

19 ส.ค. 2567 – นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ เตรียมปรับขึ้นค่าผ่านทางเฉลี่ย 5-10 บาทต่อคัน หรือกําหนดอัตราค่าผ่านทางช่วงดินแดง – ดอนเมืองจากปัจจุบัน 80 บาท ขึ้นเป็น 90 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จาก 35 บาท ขึ้นเป็น 40 บาท ซึ่งเป็นตามสัญญาสัมปทานในวันที่ 22 ธ.ค. 2567 เวลา 00.01 น. นั้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา ได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาการปรับอัตราค่าผ่านทางโครงการทางหลวงสัมปทานในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 วิภาวดีรังสิต ตอน ดินแดง – ดอนเมือง และทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือ โดยมีนายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมทางหลวงเป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาถึงปริมาณผู้ใช้ทาง, การขยายสัมปทาน, รายได้ รวมถึงเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย หากชะลอการขึ้นค่าผ่านทางแลกกับการขยายสัมปทาน ซึ่งล่าสุด คณะทำงานฯ ได้มีความเห็นว่า ยังไม่ควรขยายสัญญา เนื่องจากในภาพรวมไม่มีความคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ได้ส่งผลการศึกษาดังกล่าว ไปยังกระทรวงคมนาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ดอนเมืองโทลล์เวย์จะมีการปรับอัตราค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ระบุไว้ ตามรอบระยะเวลา 5 ปี หรือจะสามารถปรับขึ้นได้อีก 2 ครั้ง คือ ในเดือน ธ.ค. 2567 และเดือน ธ.ค. 2572 โดยจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2577 จากนั้น สัมปทานโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์จะกลับมาเป็นของ ทล. ทำให้รัฐบาลสามารถควบคุมและกำหนดค่าผ่านทางให้สอดคล้องกับค่าครองชีพของประชาชน และมีราคาที่ถูกลงมากกว่าในปัจจุบัน หรืออาจจะเปิดประมูลใหม่ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาในทุกๆ 5 ปี ก่อนหมดสัมปทาน ซึ่งในเบื้องต้นอาจจะเก็บค่าผ่านทางในอัตรา 20 บาท หรือไม่เก็บค่าผ่านทางเลยก็สามารถเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและสภาพแวดล้อมในขณะนั้น

นอกจากนี้ ทล. ยังได้หารือร่วมกับ บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง เพื่อขอความร่วมมือบริษัทฯ ในการจัดโปรโมชั่นให้กับผู้ใช้ทาง โดยจำหน่ายคูปองผ่านทางในอัตราส่วนลดท 5% ตามที่เคยดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเพื่อแก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้ทาง รวมทั้งเพิ่มสถานที่ และช่องทางการจัดจำหน่ายคูปองที่สะดวก และง่ายต่อการเข้าถึง รวมถึงประชาสัมพันธ์ช่องทางการจำหน่ายคูปองผ่านทางให้ประชาชนทั่วไปสามารถรับรู้ในวงกว้างด้วย

เพิ่มเพื่อน