ส.อ.ท. ปลื้มดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรก ในรอบ 4 เดือน รับอานิสงส์สินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและยา เครื่องสำอางเติบโต เบิกจ่ายภาครัฐเป็นผลป้อนเม็ดเงินเข้าเศรษฐกิจ หวังเร่งอุดช่องโหว่ สินค้าต่างประเทศราคาถูก ทะลักเข้าประเทศ
17 ส.ค. 2567 – นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค. 2567 ว่าอยู่ที่ระดับ 89.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 87.2 ในเดือนมิ.ย. 67 โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในประเทศในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและยา เครื่องสำอาง ขณะที่การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้นและส่งผลดีต่อสินค้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง ขณะเดียวกันการขอรับการส่งเสริมการลงทุนขยายตัวต่อเนื่อง ในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค. – มิ.ย. 67) มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 458,359 ล้านบาท ขยายตัว 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซั่นของภาครัฐ
ทั้งนี้ ในเดือนก.ค. ยังมีปัจจัยลบจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและหนี้เสีย (NPL) ที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งยังกดดันการบริโภคในประเทศ เห็นได้จากยอดขายรถยนต์ในประเทศและยอดส่งออกรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรก ที่หดตัว 24.16% และ 1.85% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ ขณะเดียวกันในด้านการส่งออกชะลอตัวลงโดยเฉพาะสินค้าคงทนประเภทเครื่องปรับอากาศและทำความเย็น อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าระวางเรือและค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มต่าง ๆ
ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 95.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 93.4 ในเดือนมิ.ย. โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet แต่อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่ผู้ประกอบการยังห่วงกังวล ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของภาคการส่งออก ขณะที่ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ตาม เอกชนมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ต้องการให้ 1. เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อลดการใช้พลังงาน รวมทั้งส่งเสริมระบบบริหารจัดการพลังงานในภาคขนส่ง อาทิ สนับสนุนโครงการอนุรักษ์พลังงานและลดต้นทุนในอุตสาหกรรม SME 2. เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการกำหนดดูแลผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาของสินค้าราคาถูกและสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ และ 3. เสนอให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขการซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศ หรือสินค้า Made in Thailand ใน โครงการ Digital Wallet เพื่อสร้างโอกาสและทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
MUST SEEK! เปิดประตูสู่สวรรค์ สุขท้าลอง @จันทบุรี
บรรยากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะออกเดินทางเที่ยวชมบรรยากาศของความสดชื่นของผืนป่า ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแห่งขุนเขาแบบไม่ต้องดั้นด้นเดินทางไกลมาก แนะนำว่าให้มาเที่ยวจันทบุรี
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม ยื่นหนังสือค้านกระบวนการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
กลุ่มมวลชน ซึ่งเป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม