จับตา นายกฯ พร้อมโฉมหน้า ครม.ใหม่“ทรีนีตี้” ประเมินผลกระทบทางการเมือง กับตลาดหุ้นไทย หลัง ศาลฯวินิจฉัย นายกฯ พ้นตำแหน่ง และครม .ทั้งคณะขึ้นอยู่กับการโหวตนายกคนใหม่ และการแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ หากลากยาว หุ้นอาจเสี่ยงหลุดแนวรับสำคัญ 1270 จุด หั่น EPS บจ.อีกรอบ แนะเลี่ยงหุ้นค้าปลีก Digital Wallet ค้าง
14 ส.ค. 2567 – นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัดกล่าวว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสินสิ้นสภาพ ทำให้นายกฯ หลุดจากตำแหน่งไปพรัอมๆ กับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ขั้นตอนหลังจากนี้คือ สภาฯ มีหน้าที่ที่จะต้องลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ จากบัญชีแคนดิเดตที่เหลืออยู่ อาทิเช่น คุณแพทองธาร ชินวัตร คุณชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย หรือคุณอนุทิน ชาญวีรกุล จากพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย มองเป็น Negative surprise ที่เกิดขึ้นในตลาด คงจะต้องมาดูว่าการรวมคะแนนเสียงเพื่อเลือกนายกฯคนถัดไป พร้อมกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะกินเวลายาวนานแค่ไหน หากเกิดขึ้นได้เร็วภายในไตรมาสที่ 3 นี้ เชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยคงจะมีไม่มากนัก แต่หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อจนกระทั่งเกิดสูญญากาศทางการเมืองไปถึงไตรมาสที่ 4 ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเผชิญกับภาวะ Political risk premium ที่สูงขึ้นได้
หากออกมาในรูปแบบนี้ มีโอกาสที่คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนต่างๆจะถูกปรับลงอีกระลอกหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่อิงกับ Domestic demand ซึ่งจะถูกบั่นทอนจาก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง การชะลอการลงทุนของภาคธุรกิจ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่ล่าช้าออกไป ไม่นับรวมกับสายตาของนักลงทุนต่างชาติที่เบื่อหน่ายกับภาพการเมืองไทยที่มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ในกรณีนี้ เราอาจจำเป็นต้องปรับลดสมมติฐาน EPS ของตลาดลง จนกระทบกับระดับดัชนี SET ที่เหมาะสม ซึ่งหมายถึงระดับแนวรับสำคัญที่ 1270 จุด ก็จะถูกกดต่ำลงมาโดยอัตโนมัติ และอาจต้องระวังกลุ่มค้าปลีกที่มีโอกาสได้รับ Sentiment เชิงลบจากความคาดหวังมาตรการ Digital Wallet ที่น้อยลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนวันตรุษจีนปี 68
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง