จุลพันธ์ ห่วงความเชื่อมั่น-เศรษฐกิจชะงัก หลัง ‘เศรษฐา’ พ้นนายกฯ เผยยอมรับคำวินิจฉัยของศาลฯ คาดมีผลกระทบกับโครงการของรัฐบาลที่ยังคงค้างอยู่อย่างแน่นอน
14 ส.ค. 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า แน่นอนว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชนกับการใช้จ่ายอยู่แล้ว เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ตอนนี้มีปัญหาอยู่ เป็นเรื่องที่ทราบกันดีและเห็นกันอยู่ เมื่อประกอบกับการเมืองที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งในช่วงนี้ก็คงจะกระทบในเชิงลบ อาจจะทำให้การหมุนเวียนของเศรษฐกิจชะลอตัวในระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายการเมืองไม่ได้ถึงทางตัน ก็ต้องเดินหน้าต่อ เมื่อทุกอย่างชัดเจนแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับมาอยู่ในฐานที่ปกติได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งต้องยอมรับคำวินิจฉัยของศาล โดยตอนนี้ตนได้ยุติการทำงานที่กระทรวงการคลังทันที โดยหลังจากนี้การเลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ต้องเดินหน้าต่อตามกลไก โดยทางสภาผู้แทนราษฎรก็มีหน้าที่ในการประชุมเพื่อที่จะเลือกตำแหน่งดังกล่าว และเริ่มต้นกระบวนการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกชุดเพื่อมาทำงานต่อ กระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล และครม. ชุดใหม่นั้น มั่นใจว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะสภาผู้แทนราษฎรยังทำหน้าที่อยู่ โดยหลังจากนี้คงจะมีการบรรจุระเบียบวาระ น่าจะไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ คงมีการเลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คงใช้เวลาไม่นาน
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาย่อมมีผลกระทบกับโครงการของรัฐบาลที่ยังคงค้างอยู่อย่างแน่นอน เพราะ 1. ขั้นตอนการดำเนินงานหลายส่วนยังคงค้างอยู่ ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการอนุมัติ ก็อาจจะมีการสะดุดติดขัด ตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดา และ 2. กระบวนการหลังจากมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็จะมีกระบวนการอีกขั้นตอนที่ คาม. ชุดใหม่จะต้องแถลงนโยบายต่อสภาฯ ซึ่งก็ต้องไปดูกันตอนนั้นว่า นโยบายหรือโครงการต่าง ๆ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาลเพื่อไทย (พท.) จะยังถูกบรรจุอยู่ในนโยบายที่จะต้องนำแถลงต่อสภาฯ หรือไม่ หรือมีนโยบายอะไรบ้าง
“สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น จะสามารถเดินหน้าได้ตามไทม์ไลน์เดิมที่รัฐบาลวางไว้ได้หรือไม่นั้น ผมคงยังไปตอบอะไรตรงนั้นไม่ได้อยู่แล้ว จนกว่ากระบวนการทุกอย่างจะมีความชัดเจน ส่วนถามว่าเพื่อไทยจะพับโครงการไปเลยหรือไม่ ผมก็ยังไม่มองตรงนั้น บอกตรง ๆ ว่ายังไม่ได้มองประเด็นใดเลย ตอนนี้ผมเชื่อว่าทางภาคราชการคงชะลอการเดินหน้าไปก่อน เพราะมันไม่ได้อยู่ในส่วนที่ผม หรือเพื่อไทยจะผลักดันได้แล้ว คงต้องรอความชัดเจนก่อน ต้องอยู่ที่ตัวบทกฎหมายว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร สุดท้ายคงต้องรอความชัดเจนที่จะออกมาจนกว่าจะมี ครม. ชุดใหม่” นายจุลพันธ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจะยังมีการบรรจุโครงการดิจิทัล วอลเล็ตไว้เป็นนโยบายเหมือนเดิมหรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า คงต้องรอมติทางพรรคก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีการฟอร์มรัฐบาลในรูปแบบใด พรรคใดจะเป็นแกนนำ ยังตอบอะไรไม่ได้เลย และขั้นตอนของทางพรรคที่จะยืนยันว่าจะมีการนำนโยบายใดไปหารือกับพรรคร่วมที่จะเกิดขึ้น หากรัฐบาลใหม่มีเพื่อไทยอยู่ด้วย แต่ถ้าไม่มีทุกอย่างก็จบไป ก็แค่นั้น แต่ถ้ามีเพื่อไทยอยู่ด้วยก็ต้องไปหารือกัน มองว่าตรงนี้เป็นขั้นตอนตามปกติ
อย่างไรก็ดี นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างเต็มที่ในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ปัญหาของประเทศไม่ได้แก้ไขได้ด้วยเวลาเพียงข้ามคืน ยังมีปัญหาคงค้าง และก็มีปัญหาใหม่เข้ามาตลอดเวลา ทั้งเรื่องสินค้าจีน ทุนจีนที่ทะลักเข้ามา ประเด็นเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลง โลกเปลี่ยนตลอดเวลา ดังนั้นเชื่อว่าไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีก็ต้องปรับนโยบาย ปรับตัว ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถรองรับกับการเปลี่ยนแปลงได้ โลกไม่หยุดรอเรา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องปรับตัว เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
“ผมเป็นรัฐมนตรีมาเกือบปี ยอมรับว่าผ่านอะไรมาเยอะ ส่วนตอนนี้ภารกิจต่าง ๆ ในหน้าที่ก็ต้องหยุดทันที เป็นเรื่องปกติ” นายจุลพันธ์ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ธ.ค.เปิดชื่อแจกหมื่นเฟส2 หั่นเงินส่งFIDFแลกแก้หนี้
“คลัง” ปักธงแจกหมื่นเฟส 2 เป็นเงินสด ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย