บางจาก ศรีราชา โชว์กำไรครึ่งปีแรก 1,077 ล้านบาท คิดเป็น EBITDA 3,604 ล้านบาท พร้อมสร้างสถิติการกลั่นสูงสุด คิดเป็น 152,200 บาร์เรลต่อวัน ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง
7 ส.ค. 2567 – นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายและปัจจัยกดดันด้านราคาพลังงาน ผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของ BSRC ทั้งในธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาด โดย BSRC มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 129,631 ล้านบาท คิดเป็น EBITDA 3,604 ล้านบาท มีกำไร 1,077 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท ธุรกิจโรงกลั่นสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังการกลั่นสูงสุดต่อเดือนที่ 154,900 บาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค. และเฉลี่ย 152,200 บาร์เรลต่อวันในช่วงครี่งปีแรก ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดช่วงครึ่งปีสูงถึงระดับ 4,745 ล้านลิตร โดยเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่สำคัญในครึ่งแรกของปี 2567 ธุรกิจโรงกลั่นสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพโรงกลั่น จนทำให้กำลังการกลั่นรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท โดยใน ไตรมาส 2 มีการเพิ่มอัตราการกลั่นโดยรวมให้สูงสุด เพื่อผนึกกำลังทางธุรกิจกับบางจากฯ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงให้โรงกลั่นบางจากพระโขนงช่วงที่มีการปิดซ่อมบำรุงประจำปี 2567 สำหรับธุรกิจการตลาด ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสถานีบริการสูงถึง 1,759 ล้านลิตร โดยได้รับปัจจัยบวกจากแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพและสถานีบริการที่เปลี่ยนตราสัญลักษณ์เป็นแบรนด์บางจาก ซึ่งดำเนินการได้เร็วกว่ากำหนด ณ สิ้นไตรมาส 2 ได้เปลี่ยนตราสัญลักษณ์สถานีบริการเป็นบางจากแล้วเสร็จ 488 สถานี ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้
“นอกจากนี้ BSRC ยังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สะท้อนความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานและศักยภาพของบริษัทฯ ซึ่งนับตั้งแต่เข้ามาเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ สรรค์สร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมเพื่อพลังงานที่เหนือกว่ามาโดยตลอดเพื่อสร้างการเติบโต และพร้อมตอบสนองต่อความท้าทายต่าง ๆ ด้วยการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพในทุก ๆ ด้าน เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันใหม่ ๆ และผนึกกำลังทางธุรกิจในกลุ่มบริษัทบางจาก อย่างเต็มที่เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” นายบัณฑิต กล่าว
