สกนช.เผยกองทุนฯยังอุดหนุนน้ำมันดีเซล 40 สตางค์/ลิตร มั่นใจมีสภาพคล่องเพียงพอจ่ายหนี้เงินกู้ก้อนแรก พ.ย.นี้

สกนช.เผยกองทุนฯยังอุดหนุนน้ำมันดีเซล 40 สตางค์/ลิตร ส่งผลเงินไหลออก 829 ล้านบาท/เดือน แต่มั่นใจ พ.ย. นี้พร้อมจ่ายคือเงินกู้ยืมก้อนแรก 1 พันล้านบาท หวังราคาน้ำมันต้นปีหน้ายังทรงตัว ทำให้มีเงินไหลเข้าพอจ่ายหนี้ มั่นใจนโยบายรัฐออกมาอุ้มแม้สภาพคล่องติดขัด

3 ส.ค. 2567 -นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่าปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลงมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 40 สตางค์/ลิตรคิดเป็นรายจ่ายประมาณวันละ 26.73 ล้านบาท หรือเดือนละประมาณ 829 ล้านบาท เพื่อตรึงราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ออกไปอีก 3 เดือน ถึงสิ้นเดือนต.ค. 2567 และยังเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่กำหนดไว้ว่าจะต้องไม่ชดเชยเกิน 2 บาท/ลิตร ขณะที่มีรายรับมีรายรับประมาณวันละ 88.15 ล้านบาท หรือเดือนละประมาณ 2,733 ล้านบาท คิดเป็นเงินคงเหลือเดือนละประมาณ 1,900 ล้านบาท ทั้งนี้ยืนยันว่าแม้จะมีเงินไหลออกแต่สถานะกองทุนยังมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินที่เคยได้กู้ยืมมาก่อนหน้านี้ 

“ในช่วงต้นเดือนพ.ย.2567 นี้ กองทุนจะถึงกำหนดเวลาทยอยจ่ายคืนเงินต้น ที่กองทุนกู้เพื่อนำมารักษาเสถียรภาพราคาเชื้อเพลิงในประเทศก้อนแรกกว่า 1,000 ล้านบาท และดอกเบี้ยประมาณ 150-200 ล้านบาท จากวงเงินกู้รวมทั้งสิ้น 105,333 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของ สกนช. พ.ศ.2565 ซึ่งเมื่อหักลบรายรับกับรายจ่ายแต่ละเดือนแล้ว ยืนยันว่ากองทุนยังมีเงินเพียงพอสำหรับชำระคืนหนี้เงินต้นก้อนแรกตามกำหนดแน่นอน”นายวิศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลจากการการชดเชยราคาน้ำมันที่ผ่านมา ทำให้ฐานะกองทุนล่าสุด ณ วันที่ 28 ก.ค.2567 ติดลบ 111,663 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 64,066 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 47,597 ล้านบาท โดยทาง สกนช. เองก็ได้มีการวางแผนรับมือกับการชำระหนี้คงค้างในงวดถัด ๆ ไปโดยตามข้อกำหนดใน 2 ปีแรกของเงินกู้อนุมติให้สามารถชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้นได้ และต้องทยอยจ่ายคืนภายใน 5 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันในช่วงต้นปีหน้าที่อาจจะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการเก็บเงินเข้ากองทุนนั้น ต้องยืนยันว่าหากอยู่ภายใต้สถานะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่เคลื่อนไหวอยู่ในระดับไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือราคาน้ำมันสำเร็จรูปน้ำมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์อยู่ในระดับปัจจุบันประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลกองทุนก็ยังมีเงินไหลเข้าและสามารถเก็บสะสมเพื่อจ่ายหนี้ได้

นายวิศักดิ์ กล่าวว่าเรื่องหนี้ที่ต้องจ่ายคืนจะเพิ่มขึ้นนั้นปัจจุบันรัฐบาลยังไม่ได้มีทีท่าเคลื่อนไหวอะไร เนื่องจากยังเห็นว่ากลไกของกองทุนฯยังสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอยู่ แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นเงื่อนไขแรกที่ต้องนำมาพิจารณาคือการลดการชดเชยดีเซลลงไปเนื่องจากเป็นปัจจัยให้เงินไหลออกจากกองทุนมากที่สุด และเชื่อว่าทางกระทรวงก็จะมีแผนงานเพื่อออกมาดูแลต่อไป ขณะที่ในส่วนของ สกนช. มีหน้าที่ทำรูปแบบให้สะท้อนต้นทันที่แท้จริงให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ขั้นตอนการลดการชดเชยนั้น พยายามจะทำให้น้อยลงกว่านี้ที่ลดเชยอยู่ 40 สตางค์ แต่ต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้น

“เรายึดแผนวิกฤติน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และครม. กำกับ หากกองทุนติดลบ ก็อนุมัติให้มีการหาเงินกู้เพิ่ม แต่หากราคาน้ำมันยังไม่ขยับลง ก็เปิดโอกาสให้เจรจากับกระทรวงการคลังในการช่วยลดภาษีเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมานั้นมีการทำแบบนี้คือการลดภาษีสรรพสามิต โดยมีการหารืออย่างชัดเจนและเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกัน ในมุมของนโยบายเชื่อว่าจะรัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ปัจจุบันเค้ามองว่าเรายังสามารถยืนอยู่ได้ จึงยังอยากให้ยืนด้วยตัวเองก่อน วันนี้ยังอยู่เป็นแบบนี้ แต่หากในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเป็นไปตามกลไก”นายวิศักดิ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน หากสิ้นสุดกำหนดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล วันที่ 31 ต.ค.2567 แล้ว ต้องติดตามสถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงตลาดโลกช่วงปลายปีว่าจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในประเทศหรือไม่ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นขึ้นตามฤดูกาลที่เข้าสู่ฤดูหนาวในต่างประเทศ ทำให้มีความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ประกอบกับปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามการค้าระว่างจีน-สหรัฐ ระลอกใหม่ ที่จะมีต่อราคาน้ำมัน จะมีผลต่อการพิจารณามาตรการดูแลราคาเชื้อเพลิงในประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพของประชาชนอย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล

นายวิศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า แม้ส่วนตัวจะหมดวาระผู้อำนวยการกองทุน เร็ว ๆ นี้ ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการกองทุนคนต่อไป รับช่วงการทำหน้าที่เร่งฟื้นฟูสภาพคล่องของกองทุนให้กระเตื้องขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ค้าน้ำมัน ตลอดจนสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ต่อไป โดยขั้นตอนการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่นั้น ปัจจุบันได้คณะกรรมการสรรหาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการปรับแก้เกณฑ์คุณสมบัติ และจะเปิดรับสมัครต่อไป โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือนในการพิจารณา และคาดว่าภายใน ก.ย. – ต.ค. 67 จะได้ชื่อผู้อำนวยการคนใหม่

เพิ่มเพื่อน