“จุลพันธ์” ฟุ้งลงทะเบียนดิจิทัล วอลเล็ตวันแรกฉลุย ไร้ปัญหาระบบล่ม 6 ชั่วโมงยอดทะลุ 10 ล้านคน เกินความคาดหวัง แจงห้ามไม่ได้คนแห่ย้ายทะเบียนบ้าน แต่ยอมรับทำผิดวัตถุประสงค์โครงการที่มุ่งกระจายใช้เงินตามภูมิลำเนา พร้อมถกแบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐ-วอลเล็ต ชวนเชื่อมระบบ โวมี 14 แห่งสนใจเข้าร่วม ขีดเส้นตอบรับไม่เกิน 15 ส.ค. 67
1 ส.ค. 2567 – นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ยืนยันว่าการเปิดลงทะเบียนวันแรก (1 ส.ค.) ราบรื่นดี เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งภายหลังเปิดลงทะเบียนเพียง 6 ชั่วโมง มียอดผู้ลงทะเบียนสำเร็จ อยู่ที่ 10.5 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เป็นตัวเลขที่เกินกว่าความคาดหวังใด ๆ ของรัฐบาล และเป็นการยืนยันว่าแอปพลิเคชันทางรัฐนั้น มีมาตรการสากลและทำได้เกินกว่าเป้าหมาย จนมีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ โดยหลังจากนี้จะมีการเปิดลงทะเบียนตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย. 2567
“ยืนยันว่าตั้งแต่เปิดการลงทะเบียนไม่มีปัญหาระบบล่มอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าระบบการลงทะเบียนอาจจะมีขรุขระบ้างเล็กน้อย เหมือนไฟฟ้ากระตุก เพราะในช่วง 10 นาทีแรกคนเข้ามาเยอะมาก และ 1 ชั่วโมงแรก มีคนลงทะเบียน 2.3 ล้านคน ซึ่งบางจุดอาจจะมีปัญหาไม่ได้บ้าง ก็อาจจะขึ้นอยู่กับรุ่นของโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชันที่อัปเดต แต่ก็แก้ปัญหานี้ได้ทั้งหมด และเชื่อว่าหลังจากนี้จะไม่มีปัญหาอะไร คนจะกระจายตัวในการลงทะเบียนมากขึ้น และระบบจะมีความเสถียรภาพมากขึ้นด้วย ตรงนี้ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของโครงการ” นายจุลพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากนี้ข้อมูลผู้ลงทะเบียนจะถูกส่งไปตรวจสอบยังแต่ละหน่วยงาน ซึ่งหากผ่านเกณฑ์ก็ได้รับสิทธิ์ ดังนั้นไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับสิทธิ์ทุกคน ซึ่งผลการตรวจสอบสิทธิ์จะออกมาหลังวันที่ 22 ก.ย. 2567 ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเร่งย้ายทะเบียนบ้านเพื่อให้สะดวกกับการใช้จ่ายนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ตอบโจทย์ของโครงการ ที่ต้องการกระจายการใช้จ่ายเงินไปในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้ได้ผลลัพทธ์น้อยลง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าการย้ายทะเบียนบ้านเพื่อรับสิทธิ์ก้เป็นสิ่งที่ทำได้ รัฐบาลไม่สามารถไปห้ามได้จริง ๆ
“การย้ายทะเบียนบ้านทำได้ แต่ไม่ใช่สิ่งที่คิดว่าควรจะต้องทำ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน คงไปห้ามไม่ได้ โดยผมคิดว่าคงไม่มีคนย้ายทะเบียนบ้านมากจนเป็นนัยยะ หลัก 10-20 ล้านคนภายในเดือนนี้ คงไม่ถึงขนาดนั้น อาจจะมีในหลักหมื่นคน ซึ่งไม่มีนัยยะ และไม่มีผล ขณะที่การใช้จ่ายในโครงการจะเกิดขึ้นคร่อมช่วงเทศกาลใหญ่ 2 เทศกาล คือ ปีใหม่ และสงกรานต์ ก็เชื่อว่าตรงนี้จะเป็นโอกาสให้ประชาชนได้กลับไปใช้จ่ายที่ภูมิลำเนาอยู่แล้ว ส่วนประเด็นว่ายังไม่กำหนดวันใช้จ่ายเงินนั้น เพราะยังมีแนวโน้มว่าจะเลื่อนเร็วขึ้น หรือช้าลงในหลักสัปดาห์ ถ้าแอปพลิเคชันและการทดสอบต่าง ๆ พร้อมแล้วก็จะประกาศรายละเอียดวันใช้จ่ายต่อไป” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ ระบุถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตสำหรับประชาชนทุกคน ว่า รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งให้ความเห็นเรื่องคนที่มีรายได้ มีเงินเก็บเพียงพอ ซึ่งหากได้เงินดังกล่าวไปมีแนวโน้มที่จะเอาไปเก็บออมมากกว่าการใช้จ่าย ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการจึงมีการกำหนดหลักเกณฑ์เรื่องรายได้ต่าง ๆ ออกมา ส่วนประเด็นที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าทั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 0.9% นั้น มองว่าเป็นการพิจารณาจากสมมุติฐานที่แตกต่างกัน แต่รัฐบาลมองว่าประโยชน์ของโครงการไม่เพียงประชาชนได้เงินหมื่นบาทไปเป็นกำลังในการต่อชีวิต แต่ประเทศยังได้ประโยชน์ในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย
ทั้งนี้ โครงการฯ จะมีหน่วยงานที่ตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้จ่าย โดยหากพบธุรกรรมที่ผิดปกติ เช่น มีการตกลงกับร้านค้าเพื่อแลกเป็นเงินสด ก็จะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าทำผิดจริงจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่ส่วนตัวมองว่าหลักความคิดเรื่องการนำสิทธิ์เงิน 1 หมื่นบาท เพื่อไปแลกรับเป็นเงินสดในอัตราที่น้อยกว่าเท่ากับขาดทุน คงไม่มีใครอยากเอาไปแลก เพราะเงิน 1 หมื่นบาทนี้สามารถซื้อของได้ในราคาเต็ม ไม่มีเหตุผลที่จะไปลดวงเงินทำไม
สำหรับรายละเอียดเรื่องร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการจะมีการชี้แจงอย่างชัดเจนอีกครั้งจากกระทรวงพาณิชย์ช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้ เพื่อทำความเข้าใจ และเชื่อมั่นว่าจะมีร้านค้าไม่ต่ำกว่า 2-3 ร้านล้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ ส่วนเรื่องกระบวนการภาษีที่ร้านค้ากังวลนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการส่งข้อมูลไปที่กรมสรรพากรโดยตรง
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจและธุรกิจวอลเล็ตต่าง ๆ เกี่ยวกับความพร้อมในการเชื่อมโยงระบบเพื่อรองรับการใช้จ่ายในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA ได้มีการส่งหนังสือเชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการไปยังภาคการเงินต่าง ๆ แล้ว โดยผ่านสมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และสมาคมธุรกิจวอลเล็ตต่าง ๆ ซึ่งมีตอบรับว่าสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 14 ราย โดยธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธุรกิจวอลเล็ตต่าง ๆ มีเวลาในการพิจารณาว่าจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ จนถึงวันที่ 15 ส.ค. นี้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะรู้ชัดเจนว่ามีธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธุรกิจวอลเล็ตต่าง ๆ เข้าร่วมโครงการกี่ราย ส่วนแพลตฟอร์มที่จะรองรรับการใช้จ่ายนั้น ยืนยันว่ามีความพร้อมรองรับการดำเนินงานในไตรมาส 4 อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ธ.ค.เปิดชื่อแจกหมื่นเฟส2 หั่นเงินส่งFIDFแลกแก้หนี้
“คลัง” ปักธงแจกหมื่นเฟส 2 เป็นเงินสด ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย