ธปท.การันตีเศรษฐกิจไทยไม่ชะลอตัว ลุ้นโอมิครอนจบครึ่งปีดันท่องเที่ยวฟื้น!

“ธปท.” การันตีเศรษฐกิจไทยไม่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว รับปีนี้ยังเปราะบาง ฟื้นตัวช้ากว่าเพื่อนบ้าน เหตุท่องเที่ยวสาหัสหนัก แจงจีดีพีปี 65 โต 3.4% ไม่เลวร้าย พร้อมเปิด 4 เสี่ยงทำเศรษฐกิจสะดุด ยันเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบ

12 ม.ค.2565 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ยังมีความเปราะบาง ฟื้นได้ไม่เร็ว ฟื้นตัวได้ไม่เท่าเทียมกัน ลักษณะ K-SHAPE รวมทั้งยังฟื้นตัวช้ากว่าเพื่อนบ้าน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ทำให้คาดว่ากว่าที่ไทยจะกลับมาฟื้นตัวในระดับปกติ คงเป็นช่วงไตรมาส 1/2566 แต่ความรู้สึกของประชาชนยังไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เพราะรายได้และการจ้างงานยังไม่เหมือนเดิม ขณะที่การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น ซึ่งถือเป็นตัวสร้างรายได้และการจ้างงานหลัก

ดังนั้น โจทย์หลักของ ธปท. คือ ทำอย่างไรให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด และห้ามสะดุด โดยปีนี้ความเสี่ยงที่จะสะดุดอยู่ 4 เรื่อง คือ 1.การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ที่เบื้องต้นประเมินว่าจะจบภายในครึ่งแรกของปีนี้ และไม่มีสายพันธุ์อื่นระบาดอีก เพื่อให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัว ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.6 ล้านคน โดยก่อนหน้านี้มีการประเมินว่าในกรณีที่เลวร้ายจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงทุก ๆ 1 ล้านคน จะกระทบกับจีดีพีลดลง 0.3-0.4%

“ธปท.ได้เตรียมความพร้อม เครื่องมือ หรือมาตรการเพียงพอที่จะรองรับหากเกิดเหตุการณ์ยืดเยื้อ เราจะทำอย่างไรก็ได้ให้ระบบสถาบันการเงินทำงานได้ใกล้เคียงปกติที่สุด อย่าให้อยู่ดี ๆ มีการตึงตัวของสินเชื่อจนเร็วเกินไป ที่ผ่านมาเราทำได้ดี ผ่านมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะสินเชื่อฟื้นฟู มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ และมาตรการรวมหนี้” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว

2.อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าครองชีพขึ้นแต่รายได้ไม่ขึ้น แม้เงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นในเชิงมหภาคของไทยไม่ได้น่ากลัวเหมือนต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเงินเฟ้อของไทยค่อย ๆ ปรับขึ้น และ ธปท. คาดการณ์ตัวเลขเฟ้อปีนี้ที่ 1.7% โดยยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะต้องมีการปรับตัวเลขเงินเฟ้อใหม่ เพราะยังอยู่ในกรอบ 1-3% ขณะที่ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นนั้น ไม่ได้ขึ้นเป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่ปรับขึ้นเป็นจุด เช่น ราคาพลังงาน ราคาหมู ขณะที่เงินเฟ้อระลอก 2 ยังไม่เห็น เพราะภาพเศรษฐกิจ การจ้างงาน ค่าแรงยังไม่ขึ้น เพราะรายได้หายไปจากภาคท่องเที่ยว แต่ ธปท. ไม่ได้ชะล่าใจ หากอัตราเงินเฟ้อส่งสัญญาณเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง ก็ต้องมีมาตรการรองรับ

3. การเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ของไทยที่แนวโน้มค่อย ๆ เพิ่ม ไม่ได้เพิ่มแบบร้อนแรง เพราะมีมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้เกิดการสะดุด โดยเฉพาะโครงการปรับโครงสร้างหนี้ที่ดำเนินการไปแล้ว และมาตรการร่วมทุนระหว่างธนาคารพาณิชย์กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ ซึ่งเกณฑ์จะออกในช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้ และ 4. สถานการณ์โลก หลังจากหลายฝ่ายมองภาพที่หลายประเทศมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวของประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงไทยชะลอตัวลงนั้น ธปท.มองว่า โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะสะดุดจากปัจจัยดังกล่าวมีน้อยมาก ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ก็ไม่น่าจะเพียงพอที่ทำให้เศรษฐกิจไทยสะดุดได้เช่นกัน เพราะการส่งผ่านการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่มีนัยยะกับประเทศอื่น รวมถึงไทย เริ่มน้อยลง

ส่วนกรณีที่นักเศรษฐศาสตร์บางสำนักประเมินว่าไทยเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวร่วมกับเงินเฟ้อสูง (stagflation) นั้น ธปท.ยืนยันว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในภาวะดังกล่าว โดยไทยเฟ้อยังต่ำเมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัว 3.4% ถือว่าไม่ได้เป็นการเติบโตที่เลวร้ายอะไร ดังนั้นหากถามว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้ชะลอตัวลงหรือไม่ และในอนาคตจะมีโอกาสชะลอตัวลงไหม จึงมองว่าไม่น่าจะเจอสถานการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ปีนี้ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทาย ความเสี่ยงและเรื่องที่อาจไม่ได้คำนึงถึงแน่นอน ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามมองไปข้างหน้า มองถึงโอกาสที่จะเข้ามา และปัจจัยที่จะทำให้เกิดการสะดุด เพื่อทำให้การฟื้นตัวที่อยากเห็นเกิดขึ้นได้จริง จึงได้มีการเตรียมมาตรการเพื่อรองรับปัจจัยต่าง ๆ ไว้ ซึ่งคิดว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอกับสิ่งที่ประเมิน

“โจทย์สำคัญคือการทำให้มาตรการที่มีอยู่เดินหน้าไปได้จริง และหากสถานการณ์ไม่เหมือนที่คาดการณ์ ก็พร้อมที่จะออกมาตรการเพื่อรับมือทันที ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ชะล่าใจ พร้อมที่จะทำอะไรที่จำเป็น เพื่อทำหน้าที่ของ ธปท. ให้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ความท้าทายที่จะเจอในปีนี้ แต่อยากให้มั่นใจว่าเป็นการทำหน้าที่สำหรับระยะยาวด้วย เพื่อทำให้มั่นใจว่าระบบการเงินของไทยมีความพร้อมรองรับเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯอิ๊งค์' เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้น ตั้งเป้าจีดีพีโต 3%

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาทำงานที่มีนโยบายต่างๆสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยในปี 2568 งบประมาณจะเพิ่มขึ้น และมีการขาดดุลการคลังที่ลดลง ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี

Nvidia บริษัท AI ระดับโลก ไปลงทุนที่ 'เวียดนาม' แล้ว 'ไทยจะทำอย่างไร'

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ทำไม Nvidia บริษัท AI ระดับโลก ไปลงทุนที่ "เวียดนาม" แล้ว "ไทยจะทำอย่างไร" เมื่อ "เวียดนาม" ขึ้นแท่น "ผู้นำเศรษฐกิจอาเซียน"

หอมกลิ่นความเจริญ! 'ทักษิณ' ประกาศปั้น GDP ประเทศไทยให้ถึง 4-5 %

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษหัวข้อ อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย ในงานสัมมนา ISAN NEXT : พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลก ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับเครือมติชน

'สุดารัตน์' ถามนายกฯ เตรียมรับมือเศรษฐกิจปีหน้าหรือยัง ชี้แจกเงินหมื่นไม่ตอบโจทย์

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงเศรษฐกิจประเทศไทยภายใต้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีปัญหาอยู่แล้ว คือหนี้ภาคครัวเรือนที่มีสูงถึง 92%