วิกฤตสภาพคล่องกองทุนฯครั้งที่ 2:ถึงเวลายอมรับราคาน้ำมันดีเซลที่35บาท/ลิตรกันได้แล้ว

ในช่วงนี้มีแต่ข่าวการปรับค่าไฟฟ้าเอฟทีขึ้นในระดับ 46.83-182.99 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาท/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2567 เพิ่มขึ้นจาก 4.18 บาท/หน่วย เป็น 4.65-6.01 บาท/หน่วย มีหน่วยงานภาคเอกชนออกมาคัดค้าน ขอให้ตรึงราคาไฟฟ้าไว้ที่ 4.18 บาท/หน่วย รวมทั้งสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงเองก็ออกมาคัดค้าน จนกระทั่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปดำเนินการแก้ไข จนคนลืมปัญหาของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งประสบวิกฤตสภาพคล่องครั้งที่ 2 จากการเข้าไปตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 30 บาท/ลิตร และตรึงราคา LPG ไว้ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก.

ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ขยับเพดานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลใหม่ จาก 30 บาทต่อลิตร มาเป็นไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.2567 กำลังจะครบกำหนดในวันที่ 31 ก.ค.2567 ในจังหวะเดียวกันที่สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นระยะหนึ่ง จนกองทุนต้องแบกภาระการดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลจนพบกับวิกฤตรอบที่ 2 ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยกองทุน ณ วันที่ 14 ก.ค.2567 มีฐานะติดลบ 111,855 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดเมื่อปี 2565 ที่เคยติดลบ 123,155 ล้านบาท

สถานะกองทุนย้อนหลัง 5 ปี

ปีน้ำมันLPGรวม
2563                36,585-9,10727,478
2564                18,244-22,724-4,480
2565                -79,042-44,113-123,155
2566                -32,476-46,118-78,594
14 ก.ค. 2567    -64,252-47,603-111,855

หน่วย: ล้านบาท

ที่มา: สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)

การแก้ไขปัญหาของกองทุนในช่วงปี 2565 นั้น รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อกู้เงิน โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 และทาง สกนช.ได้ดำเนินการเบิกเงินกู้ไปทั้งหมด 105,333 ล้านบาท ซึ่งในเดือน พ.ย.2567 นี้จะถึงกำหนดจ่ายคืนเงินกู้ให้กับสถาบันการเงิน

สภาพคล่องของกองทุนในเดือนกรกฎาคม 2567 มีเงินไหลเข้าสุทธิ 570 ล้านบาท/เดือน แยกเป็นเงินไหลเข้าจากกลุ่มน้ำมันเบนซิน 3,746 ล้านบาท/เดือน เงินไหลเข้าจาก LPG 136 ล้านบาท/เดือน เงินไหลเข้าจากน้ำมันเตา 9 ล้านบาท/เดือน แต่มีเงินไหลออกจากการตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 33 บาท/ลิตร ในอัตราลิตรละ 1.56 บาท คิดเป็นเงินไหลออก -3,321 ล้านบาท/เดือน

แม้ว่าในเดือนกรกฎาคม 2567 มีเงินไหลเข้ากองทุนจำนวนหนึ่งแต่ไม่มากนัก แต่สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความผันผวนและไม่แน่นอน และยิ่งใกล้ปลายปีซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาว แนวโน้มราคานั้นจะปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าสถานะกองทุนคงกลับมาติดลบอีกในเร็วๆ นี้ ดังนั้นการที่จะต้องใช้หนี้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งกองทุนยังติดลบอยู่จำนวนมาก คงจะเป็นโจทย์ยากสำหรับคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)

อย่างไรก็ตาม แนวทางที่จะแก้ไขปัญหามี 3 แนวทาง แนวทางแรก คือ ให้กระทรวงการคลังปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอย่างน้อย 2-3 บาท/ลิตร แนวทางที่สอง ขออนุมัติใช้งบกลางจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองแนวทางนี้คงเป็นไปได้ยากในสภาวะที่ฐานะการคลังของประเทศไม่ค่อยดี มีเงินที่ต้องใช้จ่ายในโครงการอื่นๆ อีกมาก หนทางเดียว ที่จะทำได้คือ ปรับขึ้นเพดานน้ำมันดีเซลไปที่ 35 บาท/ลิตร ซึ่งในส่วนนี้สามารถดำเนินการได้เองโดย กบน. แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับนโยบายว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องยากและมีเวลาเหลือเพียงอีก 2 สัปดาห์ที่จะต้องตัดสินใจแก้ไขโดยเร็ว

หากสามารถปรับเพดานดีเซลขึ้นไปได้แล้ว กระทรวงพลังงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาทางช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่จะได้รับผลกระทบ เช่น กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารและรถบรรทุก เพื่อชะลอการปรับอัตราค่าบริการ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต้องร่วมด้วยช่วยกันหามาตรการช่วยเหลือจากผลกระทบดังกล่าวต่อไป มิใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงานแต่เพียงหน่วยงานเดียว

เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อกองทุนในขณะนี้ ปัจจัยแรก คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงมีความไม่แน่นอน ผันผวนอย่างมาก ปัจจัยที่สอง คือ สถานะกองทุนซึ่งติดลบกว่าแสนล้านบาท และถึงเวลาที่จะต้องชำระคืนเงินกู้ในเร็วๆ นี้ หนทางสุดท้าย ที่เหลือคือ “อัตตาหิ อัตตโน นาโถ” คือ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ทาง กบน.จะต้องพิจารณาปรับเพดานดีเซลขึ้นไปที่ 35 บาท/ลิตรในเดือน ส.ค.นี้ และระยะยาวจะต้องทยอยเก็บเงินเขากองทุนเพื่อใช้หนี้ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร โดยในขณะนี้ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลย ประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาสอนว่า การใช้หนี้ของกองทุนนั้น ทางกองทุนต้องช่วยตนเองเท่านั้น ยังไม่เคยมีใครเอาเงินมาช่วยใช้แทนกองทุนเลย

วีระพล จิรประดิษฐกุล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์ ยอมรับภาพรวมค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ปรับเพิ่มสูงขึ้น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ภาพรวมดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 หลังจากที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 และปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2566

'พีระพันธุ์' วอนม็อบรถบรรทุก ขอให้ใจเย็นรออีกหน่อย จะได้ใช้น้ำมันราคาถูก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2567