ผลสำรวจชี้ คนไทยกระเป๋าฉีกพบมีหนี้สิน 20-50%ของรายได้ แถมเสี่ยงถูกเลิกจ้างสูง

คนไทย ความยากจน หนี้สิน [Recovered]

21 ก.ค. 2567 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน” ระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,146 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างคิดว่าปัจจุบัน “ปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน” เป็นปัญหารุนแรง ร้อยละ 78.80 โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.07 มีหนี้สินส่วนตัวและคิดเป็นประมาณ 20 – 50% ของรายได้ต่อเดือน ทั้งนี้ร้อยละ 47.99 เคยถูกเลิกจ้าง/เห็นคนใกล้ตัวถูกเลิกจ้าง ด้านความคิดเห็นต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาล อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนด้วยการเพิ่มโอกาสในการทำงาน/จ้างงาน ร้อยละ 79.02 ส่วนปัญหาหนี้สินอยากให้รัฐบาลสนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ร้อยละ 79.16 ส่วนปัญหาเลิกจ้างงาน อยากให้ช่วยส่งเสริมการสร้างงานใหม่/ช่วยหางานใหม่ ร้อยละ 77.34 โดยกลุ่มตัวอย่างมองว่าแนวทางที่จะทำให้คนไทย “กินดีอยู่ดีไม่มีหนี้สิน” คือ ต้องมีงานทำ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี ร้อยละ 34.06

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงานเป็นปัญหาที่รุนแรงและต้องแก้ไขเร่งด่วน ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่องและผลกระทบจากโควิด-19 การมีหนี้สินส่วนตัวที่สูงและการเลิกจ้างงานทำให้ประชาชนรู้สึกถึงภาระทางการเงินที่หนักหน่วง รัฐบาลจึงควรเน้นการสร้างงาน เพิ่มรายได้ เพิ่มโอกาสในการทำงานและจ้างงาน ผลักดันนโยบายเรือธงที่หาเสียงไว้โดยเน้นผลลัพธ์ของโครงการ ที่มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ช่วยให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงและสามารถจัดการกับหนี้สินได้ดีขึ้น

อ.ดร.ศิริ ชะระอ่ำ อาจารย์ประจำคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า การว่างงานและภาวะถูกเลิกจ้าง ซึ่งนำไปสู่ความยากจนและภาระหนี้สินของประชาชนมีสาเหตุมาจากปัญหาการขาดทักษะดิจิทัลซึ่งสำคัญจำเป็นต่อการประกอบอาชีพของแรงงานในปัจจุบัน ผนวกกับการขยายตัวของการให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคกลุ่มบัตรเครดิต ลีสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคลของสถาบันการเงินต่างๆ ยิ่งส่งเสริมให้เกิดปัญหาพฤติกรรมการก่อหนี้โดยขาดวินัยทางการเงินของครัวเรือนมีความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งจากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลในครั้งนี้ชี้ชัดถึงความคาดหวังของประชาชนต่อการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในการจ้างงาน สร้างงาน และเพิ่มรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาปากท้องและภาระหนี้สิ้นให้กับประชาชน โดยมาตรการที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการ คือ การมุ่งให้ความรู้และฝึกพัฒนาทักษะดิจิทัล ซึ่งเป็น New Skill ให้กับกลุ่มผู้ว่างงานระยะสั้น และส่งเสริมโอกาสในการยกระดับทักษะอื่นๆ (Up-skill) จำเป็นต่อตำแหน่งงานตามความต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบันอย่างเป็นรูปธรรม

                                            

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' ประกาศลุยเต็มสูบช่วยงานรัฐบาลหลังสิงหาคม

'ทักษิณ' เยือนสุรินทร์ บวชพระใหญ่ 334 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง ถ่อมตัวจากไทยไป 17 ปี ปราศรัยไม่ค่อยเป็นแล้ว แต่หวังคนไทยหลุดบ่วงหนี้สิน แย้มหลังสิงหาคม​ รัฐบาลโชว์ผลงานเป็นรูปธรรม

'ดุสิตโพล' ชี้ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. สะท้อนถึงการเลือกตั้งระดับชาติ 

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่าจากผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนถึงความรับรู้และมุมมองของประชาชนต่อการเลือกตั้งนายก อบจ. ว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยประชาชนเห็นว่าอิทธิพลของ “บ้านใหญ่” นั้นส่งผลต่อการเลือกตั้งซึ่งอาจเป็นอิทธิพลผ่านการสนับสนุนผู้สมัคร

รัฐบาลโต้ตัวเลขเปิดโรงงานใหม่ สูงกว่าปิดกิจการถึง 73%

'โฆษกรัฐบาล' แจงข่าวโรงงานปิดกิจการเพิ่มขึ้น ยันตัวเลขเปิดสูงกว่าที่ปิดถึง 73% ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของผู้ประกอบการ

ฮือฮา! ทุเรียนลูกละ 1 บาท แห่รับบัตรคิวแน่นตลาด

ตลาดมหาชัยไนท์ต้นสน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดมหกรรมทุเรียน ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2567 สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาด