ปิดจ็อบขายข้าวสาร อคส.เคาะขาย 2 ราย 'ทรัพย์แสงทองไรซ์-สหธัญ' ได้เงินเข้าหลวงกว่า 244 ล้านบาท

ปิดจ็อบขายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลล็อตสุดท้าย หรือข้าว 10 ปี สำเร็จ อคส.เคาะขาย 2 ราย “ทรัพย์แสงทองไรซ์-สหธัญ” ได้เงินเข้าหลวงกว่า 244 ล้านบาท เตรียมแจ้งมาเซ็นสัญญาใน 15 วัน และขนข้าวออกภายใน 30 วัน หลังยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน

19 ก.ค. 2567 -ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเป็นการทั่วไปครั้งที่ 1/2567 ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ว่า ขณะนี้ คณะทำงานเจรจาต่อรองการซื้อขายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล หรือข้าว 10 ปี จำนวน 2 คลัง ปริมาณรวม 15,000 ตัน ได้เจรจาต่อรองราคากับผู้ยื่นเสนอราคาอันดับ 2 อันดับ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้สรุปผลการเจรจาต่อรอง เพื่อขายข้าวให้กับเอกชน 2 ราย โดยคาดว่าจะประกาศผลผู้ชนะการประมูลในวันนี้ (19 ก.ค.) และออกหนังสือแจ้งผู้ชนะประมูล เพื่อให้เข้ามาทำสัญญาและวางหลักประกันสัญญา 5% ระหว่างวันที่ 23 ก.ค.-14 ส.ค.2567 จากนั้นมีระยะเวลาชำระเงินและรับมอบข้าวสารภายใน 30 วัน (15 ส.ค.-13 ก.ย.2567)

สำหรับผู้ที่ชนะการประมูล คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) ปริมาณ 11,656 ตัน คือ บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ เป็นผู้ชนะการประมูล โดยยืนราคาที่เสนอเดิม 15.617.35 บาท/กก. และคลังบริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด ปริมาณ 3,356 ตัน บริษัท สหธัญ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โดยยืนราคา 18.690 บาท/กก. โดยคาดว่าจะได้เงินจากการขายข้าวครั้งนี้กว่า 244 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อข้าวทั้ง 6 ราย ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการ และผลการตรวจสอบ พบ 3 ราย ไม่ผ่านคุณสมบัติ ได้แก่ บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด และบริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อาร์. การเกษตร จำกัด เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้างเก่ากับ อคส. ทำให้ต้องเจรจาต่อรองกับอีก 3 ราย ที่เหลือ ที่ยื่นเสนอราคาลำดับที่ 2 และ 3 ในแต่ละคลัง

สำหรับ 6 บริษัท ที่ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 64,010,216.32 บาท เฉลี่ย 19.070 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 222,292,403.22 บาท เฉลี่ย 19.070 บาท/กก. 2.บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 60,482,800 บาท เฉลี่ย 18.019.11 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 209,843,000 บาท เฉลี่ย 18.001.99 บาท/กก. 3.บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อาร์.การเกษตร จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งเพียงคลังเดียว 56,088,888 บาท เฉลี่ย 16.710.07 บาท/กก. 4.บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 40,980,000 บาท เฉลี่ย 12.208.81 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 182,046,000 บาท เฉลี่ย 15.617.35 บาท/กก. 5.บริษัท สหธัญ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งเพียงคลังเดียว 62,734,711.23 บาท เฉลี่ย 18.690 บาท/กก. และ 6.บริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 53,705,477.77 บาท เฉลี่ย 16 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 186,506,473.60 บาท เฉลี่ย 16 บาท/กก.

โดยการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้ ถือเป็นข้าวล็อตสุดท้ายจากโครงการรับจำนำที่ยังเหลืออยู่ โดยเริ่มจากวันที่ 10 มิ.ย.2567 เปิดให้ผู้สนใจยื่นซองคุณสมบัติ มีผู้ยื่นจำนวน 8 ราย วันที่ 13 มิ.ย.2567 อคส.ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 7 ราย ตก 1 ราย จากนั้นเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา วันที่ 17 มิ.ย.2567 มีผู้ยื่นเสนอราคา 6 ราย โดยบริษัท วีเอท ให้ราคาสูงสุด และกำหนดประกาศผลการประมูลวันที่ 21 มิ.ย.2567 แต่นายภูมิธรรม สั่งการให้พิจารณาให้รอบคอบ เพราะมีการตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัยในบริษัท วีเอท และต่อมา วันที่ 24 มิ.ย.2567 นายภูมิธรรม ได้ทำหนังสือถึงรักษาการ ผอ.อคส. ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ชัดเจน มีระยะเวลา 7 วัน และครบกำหนดวันที่ 2 ก.ค.2567 แต่ก็ไม่สามารถประกาศผลตรวจสอบได้ จนวันที่ 12 ก.ค.2567 อคส.ได้ประกาศตัดสิทธิ์เอกชน 3 ราย และเริ่มเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นเสนอราคาอันดับที่ 2 และ 3 จนได้ข้อสรุปในวันที่ 19 ก.ค.2567

เพิ่มเพื่อน