ครม.ไฟเขียว 'แบงก์ชาติ' ต่ออายุข้อตกลง BSA กับแดนปลาดิบ

'ไทย-ญี่ปุ่น' ต่ออายุความตกลง BSA กำหนดลงนามฉบับใหม่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินระหว่างทั้งสองประเทศ

10 ก.ค. 2567 - นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการต่ออายุความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา (Bilateral Swap Agreement) ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังญี่ปุ่น (ความตกลง BSA) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การจัดทำความตกลง BSA มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกทางการเงินในการให้ความช่วยเหลือระหว่างกันในกรณีที่ประสบปัญหาดุลการชำระเงินหรือขาดสภาพคล่องในระยะสั้น และเป็นส่วนเสริมความช่วยเหลือด้านการเงินที่ได้รับจากความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralism: CMIM) ธปท. และกระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้จัดทำความตกลง BSA ฉบับแรกขึ้นเมื่อปี 2544 วงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้มีการปรับปรุงและต่ออายุมาอย่างต่อเนื่อง และมีความตกลง BSA มาแล้วทั้งสิ้น 5 ฉบับ โดย ครม. ได้มีมติรับทราบการต่ออายุความตกลง BSA ฉบับปัจจุบันเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ตามที่ กค. เสนอ และได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ซึ่งจะหมดอายุลงในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เห็นชอบการต่ออายุความตกลง BSA ฉบับใหม่ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2485 และพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 โดยมีกำหนดจะลงนามในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567

ความตกลง BSA ฉบับใหม่ มีสาระสำคัญเพื่อขยายอายุความตกลงปัจจุบันไปอีก 3 ปี ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2570 ซึ่งการต่ออายุความตกลง BSA ครั้งนี้ไม่กระทบสาระสำคัญอื่นๆ ของความตกลง BSA โดยรายละเอียด ดังนี้ 1. รูปแบบกลไก ประกอบด้วยกลไกแก้ไขวิกฤต และกลไกป้องกันวิกฤต 2. รูปแบบการเบิกถอน ประกอบด้วย การเบิกถอนสองทางสำหรับสกุลเงินดอลลาร์ และการเบิกถอนทางเดียวสำหรับสกุลเงินเยน ซึ่ง ธปท. สามารถเบิกถอนเป็นสกุลเงินเยนได้ 3.วงเงินสูงสุดที่สามารถเบิกถอนได้ ประกอบด้วย กรณีขอใช้วงเงินจาก BSAเพียงแหล่งเดียวจะสามารถเบิกถอนได้สูงสุด 600 ล้านดอลลาร์ กรณีขอใช้วงเงินจากทั้ง BSA และ CMIM ที่ไม่เชื่อมโยงกับความช่วยเหลือของกองทุนการเงินระหว่างประเทศจะสามารถเบิกถอนได้สูงสุด 1.2 พันล้านดอลลาร์ และกรณีขอใช้วงเงินจากทั้ง BSA และ CMIM ที่เชื่อมโยงกับความช่วยเหลือของ IMF (IMF Linked Portion) จะสามารถเบิกถอนได้สูงสุด 3 พันล้านดอลลาร์ 4.อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามความตกลง CMIM
และ 5.อายุสัญญา มีอายุ 3 ปี

ทั้งนี้ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องลงนามในหนังสือรับทราบข้อผูกพัน ในกรณีที่ ธปท. ขอรับความช่วยเหลือจากความตกลง BSA นั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากความตกลงฉบับปัจจุบัน ส่วนประโยชน์และผลกระทบ 1.การต่ออายุความตกลง BSA เป็นกลไกเสริมสภาพคล่องกรณีที่ไทยประสบปัญหาขาดสภาพคล่องหรือปัญหาดุลการชำระเงิน และจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางการเงินระหว่างไทยและญี่ปุ่น และ 2.การต่ออายุความตกลง BSA สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ให้ความสำคัญกับการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่างๆ อย่างสมดุลตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ กระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และรักษาบทบาทนำของประเทศไทยในภูมิภาคและอนุภูมิภาค รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ องค์กรทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงของประเทศไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ขุนคลัง' มั่นใจต่อไปเศรษฐกิจดีขึ้นแน่หลัง กนง.ลดดอกเบี้ย

'พิชัย'มั่นใจเศรษฐกิจดีขึ้น หลัง กนง. ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย หวังทุกฝ่ายร่วมมือฟื้นสภาพคล่อง เชื่อ ธปท.จะพิจารณาเพิ่มกรอบเงินเฟ้อ

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ปลุกกก.สรรหาฯทำเพื่อชาติ อย่าเป็นทาสรับใช้การเมืองจิ้มชื่อประธานบอร์ดธปท.

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ธนาคารชาติ มีเนื้อหาดังนี้