จับตาค่าไฟงวดสิ้นปีส่อแววแพงขึ้น 20-40 สตางค์ รับต้องช่วย กฟผ. ชำระหนี้ หลังยังแบกตัวเลขเกือบแสนล้านบาท พร้อมปัจจัยรุมเร้าสารพัด ชี้หากรัฐต้องการตรึงราคาต่อ ต้องหาเงินช่วย
9 ก.ค. 2567 – แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมประชุมบอร์ดในวันที่ 10 ก.ค. นี้ หนึ่งในวาระสำคัญจะมีการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที งวดใหม่ ก.ย. – ธ.ค. 67 เบื้องต้นคาดว่า จะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณหน่วยละ 20-40 สตางค์ จากค่าไฟงวดปัจจุบันอยู่ที่หน่วยละ 4.18 บาท เนื่องจากหลายจากปัจจัยหลัก โดยเฉพาะการทยอยคืนชำระหนี้ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 98,000 ล้านบาท ซึ่งกฟผ.มีภาระต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย และยังมีหนี้ค่าเชื้อเพลิงที่ต้องทยอยคืนให้กับ บมจ.ปตท. ที่ได้รับภาระไปงวดก่อนหน้านี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงต่อเนื่อง กระทบกับราคาซื้อก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งแนวโน้มความต้องการก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวส่งผลให้ราคาในตลาดเพิ่มขึ้น จากหลายปัจจัยจึงทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้ มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ซึ่งหลังจากบอร์ดกกพ. มีมติรับทราบภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้า และเห็นชอบการคำนวณประมาณการณ์ค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปีแล้ว ขั้นตอนต่อไปทางกกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 3 ทางเลือกต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดจะประกาศผลการพิจารณาก่อนสิ้นเดือนก.ค.นี้ เพื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศค่าไฟใหม่ล่วงหน้า 1 เดือน
“ถ้าดูจากปัจจัยหลาย ๆ ทางแล้วต้องยอมรับว่า ค่าไฟงวดสุดท้ายของปี 67 มีแนวโน้มปรับขึ้น โดยเฉพาะประเด็นที่กฟผ.ไปกู้เงินมาช่วยประชาชนไปก่อน มีภาระต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยงวดละหลายร้อยล้านบาทแล้ว หากยิ่งชำระคืนหนี้ให้กฟผ.ช้า จะยิ่งทำให้ต้องกฟผ.ต้องแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ จะยิ่งกระทบกับเรตติ้งของกฟผ.ได้ และที่ผ่านมาหลังจากรัฐบาลได้ช่วยเหลือค่าไฟกลุ่มเปราะบาง ลดค่าไฟเหลือหน่วยละ 3.99 บาท ส่งผลให้การใช้ไฟเดือนเม.ย. 67 พุ่งขึ้นถึง 20% เทียบกับเม.ย.ของปี 66 ส่วนหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การที่ทำให้ค่าไฟถูกเกินต้นทุนจริง ทำให้ประชาชนไม่ประหยัดการใช้ไฟมากนัก ยิ่งทำให้ส่งผลไม่ดีในระยะยาว”แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนกรณีถ้าสุดท้ายแล้ว กกพ.มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าเอฟที เพื่อสะท้อนต้นทุน และลดภาระกฟผ. แต่รัฐบาลยังต้องการตรึงราคาค่าไฟงวดสุดท้ายให้อยู่ที่หน่วยละ 4.18 บาทตามเดิม เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพประชาชน ก็ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลในการหางบประมาณ หรือหาแนวทางมาช่วยเหลือเช่นเดียวกับงวดปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์' อัด 'ภูมิธรรม' ยังสับสนเรื่องเกาะกูด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานทราปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายภูมิธรรมยังสับสนเรื่องเกาะกูด
'พีระพันธุ์' เตรียมขยายเวลาตรึงค่าไฟ 4.18 บาทต่อหน่วย ถึงสิ้นปี 67
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงมาตรการดูแลราคาพลังงานให้ประชาชน หลัง
‘ภูมิธรรม’ ทุบฝ่ายต้านบิดเบือน MOU เกาะกูด ทำผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน เมื่อการเมืองบิดเบือน MOU เกาะกูด" ระบุว่าการจุดประเด็นทางการเมืองเรื่อง MOU 44 ในช่วงนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยในหลา
'วรงค์' เหนื่อยใจกับนายกฯอิ๊งค์ พูดวกวน เหมือนดีใจที่กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปอ้อมเกาะกูด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "เหนื่อยใจกับอุ๊งอิ๊ง"