'พิมพ์ภัทรา' รับหนังสือร้องเรียนคัดค้านเหมืองแร่โพแทชและเกลือหิน ยัน กระทรวงอุตฯ จะกำกับดูแลตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

พิมพ์ภัทรารับหนังสือร้องเรียนคัดค้านเหมืองแร่โพแทชและเกลือหิน ยัน กระทรวงอุตฯ จะกำกับดูแลตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและประชาชนเป็นสำคัญ

2 ก.ค. 2567 – นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังรับข้อเรียกร้องจากผู้แทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายเหมืองแร่โพแทชของประเทศไทย ก่อนการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจร ณ จังหวัดนครราชสีมา ว่าสาระสำคัญหลัก ๆ ของกลุ่มผู้เรียกร้อง คือ ขอให้ยกเลิกแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ฉบับที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโพแทชทั้งหมด ขอให้ทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับการพัฒนาเหมืองแร่โพแทช และ ขอให้เร่งรัดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่โพแทชในพื้นที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมาโดยเร่งด่วน

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีนโยบายในการผลักดันการนำแร่โพแทชขึ้นมาใช้ประโยชน์ แต่ก็ให้ความสำคัญต่อการป้องกันและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ด้วยเช่นกัน สำหรับในกรณีโครงการเหมืองแร่ไทยคาลิ ได้รับประทานบัตรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 มีพื้นที่ประมาณ 9,005 ไร่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2562 มีการร้องเรียนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่ ในประเด็นเรื่องดินเค็มทำการเกษตรไม่ได้ บ่อน้ำสาธารณะไม่สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบในประเด็นผลกระทบที่ประชาชนได้รับหลายคณะ ทั้งในระดับจังหวัดและในระดับกรม มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลายครั้ง

ซึ่งผลการตรวจสอบในชั้นนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากโครงการเหมืองแร่โพแทชและเกลือหินของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด โดยผลการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แผนที่การแพร่กระจายของคราบเกลือ พบว่าพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความเค็มมาแต่เดิม อย่างไรก็ดี ล่าสุด จังหวัดนครราชสีมาได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งชุดโดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้แทนชุมชนในพื้นที่เพื่อตรวจสอบในประเด็นข้อเรียกร้องและผลกระทบอีกคณะหนึ่งสำหรับประเด็นเรื่องแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2

ทั้งนี้ เป็นแผนที่มีการจัดทำและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึง 2570 นั้น ได้ผ่านการวิเคราะห์ทางวิชาการ การประชาพิจารณ์ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ และ ครม. เป็นไปตามขั้นตอนที่พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี ได้ทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเริ่มทบทวนแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ อีกครั้งในปี 2568 ซึ่งจะได้นำประเด็นข้อเรียกร้องต่าง ๆ  รวมทั้งข้อเสนอในเรื่องการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ไปประกอบในการทบทวนแผนดังกล่าวด้วย

“ดิฉันขอยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะกำกับดูแลการดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทชให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พยายามนำทรัพยากรแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ในขณะเดียวกันก็พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด โดยในการบริหารจัดการแร่จะต้องคำนึงถึงดุลยภาพทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพประชาชนประกอบกันด้วย” รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล’หวังกระทรวงอุตฯเป็นที่พึ่งของทุกคนอย่างแท้จริง

การเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงต่างๆ ในประเทศไทยนั้นต้องผ่านด้านการบริหารงานมาเข้มข้น และยังต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์อย่างจริงจัง

'เด็กก้าวไกล' จี้รัฐบาลเร่งดันร่างกฏหมาย PRTR

'ชุติพงศ์' จี้รัฐบาล เร่งดันร่างกฏหมาย PRTR หลังเกิดเพลิงไหม้-สารรั่วไหลทั่วประเทศเกือบ 10 ครั้ง เผยโรงงานระยองไฟปะทุ ก่อควันพิษกระทบสุขภาพ ปชช.-โรงเรียนในพื้นที่เปิดไม่ได้

ช็อก! อธิบดีกรมโรงงาน ยื่นหนังสือลาออกฟ้าแลบ ก่อนเกษียณอายุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม ที่มีนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประธาน ซึ่งมีระเบียบวาระพิจารณากรณีการขนกากแร่อุตสาหกรรม บริษัท ผาแดง อินดัสทรี จำกัด(มหาชน)