“คลัง” เคาะแล้วดีเดย์ 5 ก.ค. 67 เดินเครื่องรีดภาษี VAT 7% สินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท หนุนรายได้เพิ่ม 700 ล้านบาท พร้อมแจงสรรพากรเร่งแก้กฎหมาย เตรียมคุยแพลตฟอร์มใน-ต่างประเทศ คาดแล้วเสร็จสิ้นปีนี้
1 ก.ค. 2567 – นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อรองรับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% สินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทนั้น เป็นนโยบายที่ต้องการสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการในประเทศ และต่างประเทศ โดยเป็นนโยบายที่ไม่ได้เน้นเรื่องรายได้เป็นสำคัญ
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริการการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ที่ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2567 ในระหว่างที่รอกรมสรรพากรเร่งแก้กฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ในช่วงต้นปีหน้า เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ในระยะยาว โดยคาดว่าในช่วง 4-5 เดือน กรมฯ จะสามารถจัดเก็บรายได้จากมาตรการดังกล่าวราว 700 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1.5 พันบาทนั้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66-พ.ค. 67) พบว่า มีปริมาณสินค้าดังกล่าว ราว 89 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าราว 2.7 หมื่นล้านบาท เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 30-40% ซึ่งหากมีการจัดเก็บภาษีแวตดังกล่าว รัฐจะมีรายไวด้ราว 1.8 พันล้าบาท และคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2567 สินค้ากลุ่มนี้จะมีมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้นหากคิดเป็นการจัดเก็บภาษีตลอดทั้งปี น่าจะอยู่ที่ราว 2.1 พันล้านบาท
“หากประมาณการรายได้จากภาษีจากการจัดเก็บแวตสินค้าที่ต่ำกว่า 1.5 พันบาท จากมูลค่าสินค้าตั้งแต่ต้นปีจนถึง พ.ค. 2567 ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท นั่นหมายถึงรัฐจะมีรายได้จากภาษีในส่วนนี้ราว 1.8 พันล้านบาท และหากทั้งปีมีมูลค่าการนำเข้าถึง 3 หมื่นล้านบาท ก็มีโอกาสที่รายได้จากภาษีในส่วนนี้จะถึง 2.1 พันล้านบาท โดยสิ่งที่ได้จากมาตรการนี้ไม่ใช่เพียงแค่ภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความเป็นธรรมระหว่างสินค้านำเข้าจากต่างประเทศและสินค้าในประเทศด้วย” นายพันธ์ทอง กล่าว
นายพันธ์ทอง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรมฯ อยู่ระหว่างการประชุมเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ด่านหลัก ๆ ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการดำเนินการตามประกาศที่จะเริ่มให้มีการจัดเก็บภาษีแวตสินค้าต่ำกว่า 1.5 พันบาท ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป โดยพบว่าปัจจุบันด่านศุลกากรที่มีสินค้าต่ำกว่า 1.5 พันบาทเข้ามาค่อนข้างเยอะ ได้แก่ ด่านมุกดาหารและนครพนม เนื่องจากการขนส่งจากทางตอนใต้ของจีน ผ่านเวียดนามและเข้าไทยทางด่านมุกดาหารและนครพนม เพราะมีความสะดวกและค่าขนส่งถูกกว่ามาก
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี และโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะหารือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ เกี่ยวกับรายละเอียดในการจัดเก็บภาษีแวตกับสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1.5 พันบาท และระหว่างนี้กรมฯ จะเร่งแก้กฎหมายประมวลรัษฎากร เพื่อให้อำนาจกรมสรรพากรสามารถดำเนินการจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งกระบวนการ คือจะมีการแก้ประมวลรัษฎากร โดยปรับขั้นตอนให้แพลตฟอร์มเป็นผู้จัดเก็บภาษีในส่วนนี้และนำส่งให้กับกรมสรรพากรโดยตรง โดยกระบวนการทั้งหมดจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แม้ว่าเรื่องกฎหมายจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาก็ตาม” นายวินิจ กล่าว