นายกฯปลื้มผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยคงอันดับ 1 ในอาเซียน

นายกฯดัน Medical and Wellness Hub ต่อเนื่อง ยินดีตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยคงอันดับ 1 ในอาเซียน เดินหน้าจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ เชื่อมั่นสร้างรายได้ 300 ล้าน

30 มิ.ย. 2567 – นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินหน้าขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) อย่างครบวงจรตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมศักยภาพผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในฐานะสินค้า Soft Power ของไทย พร้อมสนับสนุนให้การผลิตยาในไทยได้มาตรฐานระดับสากลและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ส่งเสริมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปี การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 21 (The 21th Thailand Herbal Expo 2024) ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “นวดไทย สปาไทย สมุนไพรไทยสู่เวทีโลก” ระหว่างวันที่ 3 – 7 กรกฎาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดการณ์ว่าสร้างเป็นรายได้กว่า 300 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ จัดโดยกระทรวงสาธารณสุข วัตถุประสงค์ต้องการขยายโอกาสตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย โดยจัดเป็น 6 บริเวณ ได้แก่ 1) บริเวณวิชาการ มีการประชุมและประกวดผลงานด้านแพทย์แผนไทย 2) บริเวณ Service มีคลินิกให้คำปรึกษา ตรวจรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และคลินิกบำบัดยาเสพติด 3) บริเวณ Product ที่ให้คำแนะนำเรื่องการส่งออกและภาพรวมตลาดสมุนไพร 4) บริเวณ Wellness มีบริการนวดไทย และจัดแสดงสปาจำลองเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ 5) บริเวณ Innovation ที่ให้คำแนะนำด้านนวัตกรรมและวิจัยพัฒนา 6) บริเวณการแจกต้นพันธุ์และเมล็ดพันธุ์สมุนไพรฟรีวันละ 1,000 ชิ้น โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาการจัดงาน
นอกจากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่พบว่า ตลาดยาในประเทศมีมูลค่ากว่า 2.4 แสนล้านบาท ตลาดยาจะยังเติบโตได้อีก 11% ต่อปี จึงเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพที่ช่วยยกระดับเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพของไทยได้นั้น ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทยเป็นที่น่าจับตามองเช่นกัน ในปัจจุบันมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน เป็นอันดับที่ 4 ของเอเชีย และอันดับ 8 ของโลก โดยในปี 2566 ผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในไทยสร้างรายได้เป็นมูลค่ารวม 56,944 ล้านบาท

ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2570 ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทยจะมีมูลค่าเติบโต 104,000 ล้านบาท ด้วยค่านิยมของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และสมุนไพรเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาและสมุนไพรที่ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จำนวนกว่า 17,300 รายการ และมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยกว่า 2,000 รายการที่ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพของไทย ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยาของไทยที่ทำมูลค่าได้สูง รวมทั้งผลักดันขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาของไทย เพื่อให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและเติบโตต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) ให้มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาค” นายชัย กล่าว
///

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม. เตรียมตั้ง 'ชัย วัชรงค์' อดีตโฆษกรัฐบาล นั่งผู้แทนการค้าไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรก วันที่ 17 ก.ย. นอกเหนือจากวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีแล้ว

'เศรษฐา' เตรียมต้อนรับ 'นายกฯลาว' เยือนไทยเป็นทางการ 15 ส.ค.นี้

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2567 นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) มีกำหนดเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

โฆษกรัฐบาล เผยครึ่งปีแรก 67 จำนวนโรงงานเปิดใหม่ มีมากกว่าปิดกิจการ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันตัวเลขจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปี 2567 รวมทั้งสิ้น 7 เดือน ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 31 กรกฎาคม 2567 ทั้งจำนวนโรงงาน ตัวเลขเงินลงทุน และ ตัวเลขการจ้างงาน มีตัวเลขเป็นบวกทั้งสิ้น

นายกฯ ห่วงคนไทยในญี่ปุ่น ขอให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตือนชาวไทยที่อยู่ในพื้นที่ประเทศญี่ปุ่นให้ติดตามสถานการณ์ต่อกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ ที่กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ