อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ เผยโร้ดแมป 5 ปี เตรียมยกระดับสินค้าความงามประเทศไทย กระหึ่มเวทีโลก พร้อมสร้างคุณค่าทรัพยากรความงามไทย สนับสนุนชุมชนผลิตวัตถุดิบป้อนโรงงาน ลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ พลิกโฉมโรงงานด้วยแนวคิด Eco Economy มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานสะอาดในทุกการตอนการผลิต ใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อผลิตสินค้า “ความงาม” ที่ยั่งยืน เข้าถึงเข้าใจผู้บริโภคด้วยการบริการอย่าง Expert Solution
24 มิ.ย. 2567 – นางสาวบุษบา จินตโสภณ กรรมการและผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด หรือ ILC เปิดเผยว่า บริษัท บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรีส์ จำกัด หรือ ILC ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 โดย ดร.เทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้ง บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นผู้บุกเบิกด้านการผลิตเครื่องสำอางรายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามายาวนานกว่า 54 ปี ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมความงามที่เป็นเลิศแก่ผู้บริโภค ด้วยทีมงานมืออาชีพที่ให้บริการแบบ One Stop Service ครบจบในที่เดียว และมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ตลอด 54 ปีที่ผ่าน ILC อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเครื่องสำอางกว่า 100 แบรนด์ อาทิ BSC, ARTY, KMA, Honei V, Shinee, Enfant ฯลฯ โดยสัดส่วนลูกค้าในปัจจุบันคือ ลูกค้าเดิม 70 % และลูกค้ารายใหม่ 30% สำหรับลูกค้ารายใหม่จะเป็นกลุ่มที่มี BRAND อยู่แล้ว หรือที่ต้องการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองโดยลูกค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าจากต่างประเทศ อาทิ อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เอเชีย, Influencer, และ ยังมีผู้ประกอบการที่เน้นช่องการขายทางออนไลน์
ขณะที่ปัจจุบันเทรนด์สินค้าความเปลี่ยนแปลงไปมาก สิ่งที่เห็นชัดเจน คือ ทั่วโลกให้ความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ILC จึงตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าบริษัทจะเป็นโรงงานในประเทศไทย ที่สร้างสรรผลิตเครื่องสำอางที่ปลอดภัย มีคุณภาพ เปี่ยมด้วยนวัตกรรมความงามที่เข้าถึงเข้าใจความต้องการผู้บริโภค ด้วยการบริการอย่าง Expert Solutionโดยปัจจุบันเทรนด์ฮิตของเครื่องสำอางและสกินแคร์ คือ การบำรุง ฟื้นฟู “ผิว” ให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก เพื่อความงามที่ยั่งยืน
สำหรับสัดส่วนยอดขายในกลุ่มเครื่องสำอางแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.เครื่องสำอางสีสัน มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 25% 2.สกินแคร์ บำรุงผิว สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 30% 3.ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 10% โดยในปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 3,800 ล้านบาท และในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15-20% ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เครื่องสำอางเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง คือ คนหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามมากขึ้น ทุกเพศทุกวัย เพื่อซื้อเครื่องสำอางที่ทำให้ตัวเองสวยและดูดีตลอดเวลา
ส่วนปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตมายาวนาน 54 ปี คือ ยึดหลักแนวคิดความสำเร็จของท่าน (ลูกค้า) คือรางวัลของเรา “ลูกค้าเจริญ …เราก็เจริญด้วย” ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงไม่หยุดค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีในการดำเนินธุรกิจ “ซื่อสัตย์ จริงใจ” สำหรับแผนดำเนินธุรกิจอีก 5 ปี บริษัทตั้งใจจะทำให้ธุรกิจเครื่องสำอางไทยก้าวสู่เวทีโลก ด้วยนวัตกรรมที่คิดค้นโดยคนไทย วัตถุดิบจากประเทศไทยดังนั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่มุ่งเน้น คือ การสนับสนุนให้ชุมชนปลูกหรือผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางป้อนให้แก่โรงงานของบริษัท เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับชุมชน นอกจากนี้ บริษัทยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม ปลูกต้นไม้ มากกว่าแสนต้น, สนับสนุนการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล โดยหวังว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการช่วยปลูกจิตสำนึกในชุมชนและสังคม ที่ช่วยนำพาไปสู่การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พิพัฒน์” นำทัพไตรภาคีฝ่ายไทย เยือนนครเจนีวา ร่วมประชุมใหญ่ ILC ยื่นสัตยาบันอนุสัญญา ฉบับที่ 144
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล เดินทางเยือนนครเจนีวา