ส.อ.ท.ยันซูซูกิเลิกผลิตในไทยไม่กระทบความเชื่อมั่น ชี้ยังมีหน่วยขาย-ซ่อมอยู่

ส.อ.ท. เผยกรณี SUZUKI มีประกาศยุติการผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัทในเครือที่ประเทศไทย ไม่กระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ เผยยังมีหน่วยงานจำหน่ายและซ่อมอยู่

8 มิ.ย. 2567 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SUZUKI มีประกาศ การตัดสินใจยุติการผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัทในเครือในประเทศไทย โดย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2568 ว่าการตัดสินใจดังกล่าวนั้นไม่กระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เนื่องจากซูซูกิยังมีหน่วยบริการขายในไทยอยู่ รวมถึงศูนย์บริการหลังการขายเหมือนเดิม เช่นเดียวกับรถยนต์แบรนด์อื่น ๆ ที่มีเพียงหน่วยขายในประเทศไทยแต่ไม่ได้ผลิต อาทิ Tesla

ขณะเดียวกันแผนการยกเลิกผลิตรถยนต์ของซูซูกินั้นจะมีผลปลายปี 2568 ซึ่งต้องมาติดตามในช่วงปี 2569 อีกครั้งว่า ส.อ.ท. จะมีการประกาศยอดผลิตรถยนต์รวมในช่วงนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะต้องอ้างอิงจากเศรษฐกิจของประเทศ และหนี้ครัวเรือนเป็นอย่างไร รวมถึงกลุ่มสินเชื่อเพื่อยานยนต์(ไฟแนนซ์)ยังปฏิเสธการให้กู้หรือไม่ หากเศรษฐกิจดีขึ้นก็อาจจะลดความกังวลในส่วนนี้และจะสะท้อนไปยังยอดการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นได้ ขณะเดียวกันสัดส่วนการผลิตรถยนต์ของซูซูกิในประเทศไทยก็ถือว่ายังน้อยอยู่หากเทียบกับภาพรวมทั้งหมด และมองว่าอาจจะมีคุ้มค่าน้อยกว่าการนำเข้าจากหน่วยผลิตอื่น ๆ อย่างเช่นในญี่ปุ่น และอิเดีย ที่มีสัดส่วนการผลิตสูงมากกว่าในไทย 

“ซูซูกิถือเป็นผู้นำในการผลิตรถเล็ก หรืออีโคคาร์ เขาเก่งมาในเรื่องนี้ และการยุติโรงงานผลิตในประเทศไทยนั้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นหรือภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ เพราะนักลงทุนรับรู้เรื่องนี้ดีว่าหากผลิตได้น้อยก็จะไม่คุ้ม เนื่องจากต้นทุนต่าง ๆ ก็จะสูงกว่าเป็นปกติ สู้นำเข้ามาจากโรงงานที่ผลิตเยอะ ๆ และได้ต้นทุนต่ำดีกว่า เช่นเดียวกับประเทศจีน ที่แต่ละปีมีการผลิตรถยนต์หลายสิบล้านคัน ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าการไปตั้งโรงงานผลิตในแหล่งอื่น ๆ ซึ่งซูซูกิเองก็ยังมีหน่วยผลิตที่ใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากได้รับความนิยมอย่างมาก”นายสุรพงษ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซูซูกิ ผนึกกำลังผู้จำหน่าย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย 7 จังหวัด ภาคใต้

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่ซูซูกิให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง