บล.ทิสโก้ชี้ ความไม่แน่นอนการเมืองกระทบเชื่อมั่น แนะซื้อหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกต่างประเทศหนุน 

บล.ทิสโก้ชี้ปัจจัยการเมืองในประเทศไม่นิ่ง โดยเฉพาะ ส.ว.ยื่นศาล รธน. วินิจฉัยนายกฯ ขาดคุณสมบัติ สั่นคลอนความเชื่อมั่นนักลงทุน แนะซื้อหุ้นที่ได้ปัจจัยหนุนจากต่างประเทศรับเศรษฐกิจโลกฟื้น

5 มิ.ย. 2567 – นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยการเมืองในประเทศกลับมาไม่นิ่ง ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญที่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งการปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1/1” ไม่ถึง 1เดือน มีรัฐมนตรีประกาศลาออกถึง 3 ท่าน สะท้อนแรงกระเพื่อมภายในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน และเรื่องด่วนที่มาแรงแซงทางโค้ง คือ กลุ่ม 40 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.)วินิจฉัยว่านายกฯ ขาดคุณสมบัติหรือไม่จากกรณีแต่งตั้งคุณพิชิต ชื่นบานเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลฯ มีมติรับคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และให้นายกฯ ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ทั้งนี้แม้บล.ทิสโก้ให้น้ำหนักว่า คำวินิจฉัยจะออกมาเป็นบวกต่อนายกฯ หลังได้มือดีทางกฎหมายอย่างอดีตรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม เข้ามาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองดังกล่าวจะสร้างความอึมครึมต่อตลาดต่อไปจนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ1-2 เดือนข้างหน้านี้ หรือภายในช่วงเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม ซึ่งอาจจะเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันกับศาลฯ อาจมีคำวินิจฉัยของพรรคก้าวไกลในคดีล้มล้างการปกครองก็ได้

อย่างไรก็ตาม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของทั่วโลก (Global Composite PMI) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดย Composite PMI รวมของประเทศหลัก อาทิ สหรัฐฯ, ยูโรโซน, ญี่ปุ่น และอินเดียออกมาเพิ่มขึ้นทั้ง 4 ประเทศ นอกจากจะสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจโลกผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วยังส่งสัญญาณด้วยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีการกระจายตัวมากขึ้น สอดคล้องกับประมาณการ GDP ปี 2567 ที่นักเศรษฐศาสตร์เริ่มปรับคาดการณ์ขึ้นในหลาย ๆ ประเทศทั้งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets : DM) และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Markets : EM)  อิงจากสถิติการลงทุน10 ปีที่ผ่านมาเมื่อ Global Composite PMI รวมที่สูงกว่า 50 จุด ตลาดหุ้นใน EM มักจะมีการปรับขึ้นเร็วกว่าตลาดหุ้นใน DM หรือ Outperform โดยเฉลี่ย 10% เมื่อเทียบกับหุ้นทั่วโลก 

สำหรับตัวเลขส่งออกไทยล่าสุดในเดือนเมษายนพลิกขยายตัว 6.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่กระจายตัวมากขึ้น น่าจะหนุนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะครึ่งหลังของปี บล.ทิสโก้คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวได้ราว2.0-2.6% จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในฝั่งยูโรโซนที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และเศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดหลังทางการมีแนวทางในการกระตุ้นเพิ่มขึ้น บล.ทิสโก้ยังคงมุมมองโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก

ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่กระจายตัวมากขึ้น และความไม่แน่นอนของปัจจัยการเมืองในประเทศ บล.ทิสโก้จึงแนะนำนักลงทุนเลือกหุ้นที่มีดีมานด์จากต่างประเทศช่วยหนุน แนะนำ AMATA, BDMS, GFPT, HANA, MINT และหุ้นที่คาดจะเข้า SET50 Index ในช่วงครึ่งปีหลัง แนะนำ BJC และITC  เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นของบล.ทิสโก้ในเดือน มิถุนายนคือ AMATA, BDMS, BJC, GFPT, HANA, ITC และ MINT  ด้านแนวรับและแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1330, 1300 และ 1370, 1390, 1400-1410 จุด ตามลำดับ

เพิ่มเพื่อน