SCBS คัด 10 หุ้นเด่นมาแรงปีเสือ

บล.ไทยพาณิชย์ เคาะดัชนีหุ้นไทยปี 65วิ่งแตะ 1,750 จุด คาดจีดีพีปีนี้โต 3.6-4% หนุนคุมโอมิครอนให้จบภายในไตรมาส 1/65 หากยืดเยื้อหวั่นกระทบเศรษฐกิจ-ผลงาน บจ. พร้อมคัด 10 หุ้นเด่นปีเสือ ชูกลุ่มโตดีตามวัฎจักรเศรษฐกิจ กลุ่มรับอานิสงส์เปิดประเทศ-เทรนด์ธุรกิจใหม่มาแรง

7 ม.ค. 2565 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS ประเมินการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมีความเสี่ยงกระทบเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงไตรมาส 1/2565โดยหากไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ภายในไตรมาสดังกล่าวจะมีความเสี่ยงต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 2565 พร้อมทั้งประเมิน SET Index ปี 2565 มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,550-1,750 จุด

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ Chief Research Officer บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ปี 2565 ประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะกลับเข้าสู่ภาวะก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งหมายถึง อัตราการเติบโตของจีดีพีในระดับที่มีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะชะลอตัวลง อัตราดอกเบี้ยที่เริ่มปรับตัวขึ้น การเพิ่มภาษีขึ้นบ้างเพื่อสร้างสมดุลให้กับฐานะการเงินของรัฐบาล และสุดท้ายคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นจะลดลงจากปี 2564

โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะชะลอตัว ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโต 4.5% ในขณะที่คาดว่าอัตราการขยายตัวของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังปี 2565 โดยไอเอ็มเอฟประเมินว่าจีดีพีจะเติบโต 5.1% จากการเปิดประเทศได้มากขึ้น หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการฟื้นตัวขึ้น แต่การระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้การคาดการณ์เศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาด

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย “มองบวกอย่างระมัดระวัง” โดยปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวกลับมาเติบโต 3.6-4.0% จากที่ติดลบ6.1% ในปี 2563 และเติบโต 1.0% ในปี 2564 และคาดว่าการส่งออกปี 2565 จะเติบโต 2% นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 8 ล้านคน ด้านกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากจีดีพีที่เติบโตดีขึ้น

“SCBS ประเมินผลตอบแทนของ SET Index ได้ที่ 5% ภายในสิ้นปี 2565 และ 8% เมื่อรวมเงินปันผล ในกรณีเลวร้ายหากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ อาจส่งผลให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลดลงเหลือ 2.6% (กรณีเลวร้ายที่สุด) ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสเติบโตใกล้ 0%” นายสุกิจ กล่าว

นายสุกิจ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นเติบโตที่ราคาสมเหตุสมผล โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโตได้ดีตามวัฏจักรเศรษฐกิจและการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ได้แก่ KBANK, AMATA, ZEN,LHและ GULF และ 2. หุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้รับประโยชน์จากเทรนด์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจของโลกยุคใหม่ ได้แก่ DELTA, ADVANC, ONEE, SECURE และ XPG

เพิ่มเพื่อน