เจ้าสัว 'สหพัฒน์' มองนโยบายไทยเปรียบเสมือน 'เศรษฐกิจหาเสียง' ชี้ขึ้นค่าแรงหนุนต่างชาติเข้ามาทำงานมากขึ้น

เจ้าสัว ‘บุณยสิทธิ์’ มองนโยบายเศรษฐกิจประเทศไทยเปรียบเหมือน “เศรษฐกิจหาเสียง” ไม่ได้มองระยะยาว เผยหากปรับตัวและตรงจุดยังมีโอกาส ชี้ปรับค่าแรงขั้นต่ำหนุนต่างชาติเข้าทำงานไทยมากขึ้น มองดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว

30 พ.ค. 2567 – นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า นโยบายเศรษฐกิจส่วนมากของเมืองไทย ส่วนตัวมองว่าเป็นเศรษฐกิจหาเสียง ไม่ใข่การพยายามผลักดันเศรษฐกิจอย่างแท้จริง พยายามโปรโมทเรื่องเศรษฐกิจแต่ไม่ได้มองถึงระยะยาว และไม่กล้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ไม่มีเมกะโปรเจกต์เกิดขึ้น แต่หากถามว่าเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าดีกว่าในหลายประเทศ แม้ว่ากำลังซื้อในระดับล่างอาจจะยังฝืด แต่ระดับบนยังมีอำนาจการซื้ออยู่

“หากดูการเติบโตเศรษฐกิจของไทย ต้องบอกว่าถ้าเทียบกับทั่วโลกเรายังดีกว่ามาก แต่ก็ต้องรู้จักปรับตัว แต่ขณะเดียวกันหากเทียบกับเวียดนามก็อาจจะสู้เขาไมได้เพราะเขาเติบโตเยอะ ส่วนจีนขนาดว่าเป็นประเทศขนาดใหญ่ก็ยังเติบโตถึง 5% แต่ของเราเล็กกว่ามากและเติบโตได้น้อยกว่า ถามว่าประชาชนอึดอัดไหมก็มีบ้าง แต่ไม่ถึงกับว่าไม่มีกินมีใช้ การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายวิธี มองว่ารัฐบาลเองก็ตั้งใจทำให้เศรษฐกิจดี แต่ต้องดูว่าตรงจุดไหม ถ้าตรงก็จะขึ้นเร็ว แต่ถ้าไม่ก็จะช้าหน่อย ถ้ารู้จักเปลี่ยนแปลงและทำให้เร็ว เศรษฐกิจไทยก็ยังมีโอกาสอยู่ ส่วนนายกฯ เองส่วนตัวมองว่าเป็นคนขยันดี”  นายบุณยสิทธิ์ กล่าว

สำหรับประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มองว่าปัจจุบันคนไทยไม่ได้ทำงานในค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มก่อสร้าง หรือแม้แต่ธุรกิจบริการ ส่วนมากจะเป็นแรงงานจากต่างประเทศเข้ามาทำเพื่อรับค่าจ้างในค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า หากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ก็มองว่าจะเป็นการส่งเสริมให้คนต่างชาติเข้มาทำงานในไทยมากขึ้น ในส่วนของเครือสหพัฒน์ก็สนับสนุนมาตรการดังกล่าว เพราะหากค่าแรงเพิ่ม ก็จะมีการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้คำนึงถึงผลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับ ไม่ใช่เป็นผลดีกับต่างชาติ

ทั้งนี้ โรงงานในเครือสหัฒน์มีการจ่ายเกินค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าอุตสาหกรรมบางประเภทจะมีปัญหา โดยเฉพาะที่ใช้แรงงานเยอะ และจ้างในรคาคาถูก แต่ในเครือฯ มีการพัฒนาไปไกลแล้ว โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการผลิต ทั้งเรื่องออโตเมชั่นและเอไอ ทำให้ไม่ได้เพิ่มคน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยนั้น ก็ทำให้กระบวนการผลิตเร็วขึ้นและของที่ผลิตก็มีคุณภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย

นายบุณยสิทธิ์  ให้ความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว ไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย หากจะมีการลดดอกเบี้ยควรไปดูแลในส่วนนอกระบบธนาคารดีกว่า เพราะขึ้นสูง แต่ถ้าพูดถึงว่าดอกเบี้ยแพงไหม สำหรับพวกเราไม่เกี่ยวเลย แต่ธุรกิจใหญ่ที่กู้เงินมากจะเจ็บตัวมากกว่า  

เพิ่มเพื่อน