‘จุลพันธ์’ แจงรัฐบาลถกเล็งดึงเงินนอกงบประมาณมาเสริมแกร่ง หวังลดภาระงบประมาณ ด้าน ครม. ไฟเขียวงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท อุ้มดิจิทัลวอลเล็ต รับกระทุ้งหนี้ประเทศเพิ่ม 0.5% แต่ไม่อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง
28 พ.ค. 2567 -นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า ได้มีการหารืออย่างหลากหลายในที่ประชุม ครม. เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการนำเงินนอกงบประมาณมาใช้เสริม ไม่ใช่เพียงแต่พึ่งพางบประมาณของรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว เพราะเม็ดเงินนอกงบประมาณมีจำนวนมาก
ขณะที่สำนักงบประมาณ ได้มีการชี้แจงว่า การจัดสรรงบประมาณเป็นไปตามกรอบของกำหมาย แต่ก็พร้อมรับข้อเสนอดังกล่าว เพื่อที่จะปดูว่าในอนาคตจะสามารถดึงเงินนอกงบประมาณมาช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาลได้หรือไม่ แต่ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย
“เงินนอกงบประมาณนั้น ยังไม่ได้มีการชี้เป้าชัดเจนว่าจะให้ไปดูส่วนไหนเป็นพิเศษ แต่ก็รู้กันดีว่าเงินนอกงบประมาณมีเป็นหลักล้านล้านบาท มันค่อนข้างเยอะ แต่ในรายละเอียดของเงินนอกงบประมาณนี้บางส่วนก็เป็นกองทุน หรืออะไรที่จะไปแตะไม่ได้ แต่ก็มีส่วนที่สามารถบริหารจัดการได้ หลาย ๆ ที่ หลาย ๆ ส่วนรวมกันก็หลักหมื่นล้านบาท ตรงนี้ถ้าสามารถบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพได้ก็จะมาช่วยแบ่งเบาภาระงบประมาณได้” นายจุลพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม. ได้อนุมัติการปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง (ปี 2568-2570) ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเห็นชอบกรอบการคลังระยะปานกลางที่มีการปรับปรุงใหม่หลังรัฐบาลจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยเป็นการขาดดุลเพิ่มเติมทั้งหมด ขณะที่ตัวเลขหนี้สาธารณะนั้น จะปรับเพิ่มขึ้นราว 0.5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 63-64% ซึ่งตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยนั้นไม่ได้น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
“การปรับกรอบการคลังนั้นเป็นไปตามจังหวะ เป็นขั้นตอนในการจัดทำงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อมีการปรับเพิ่มงบประมาณก็ต้องปรับกรอบการคลัง ไม่ปรับไม่ได้ โดยวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาทนั้น จะทำให้ตัวเลขหนี้สาธารณะเพิ่มเล็กน้อย ประมาณ 0.5% ดีดขึ้นมานิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด และตัวเลขทั้งหมดที่นำเสนอ ครม. นั้นก็อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ส่วนแผนการคลังระยะปานกลางก็ยังอยู่ในกรอบ ยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมายทั้งหมด” นายจุลพันธ์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการฟื้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเรื่องนี้หากจะดำเนินการจริง ๆ มองว่า 2-3 สัปดาห์ก็สามารถสรุปได้ แต่หลัก ๆ ต้องอยู่ที่ฝ่ายนโยบายเป็นคนตัดสินใจมากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แจกเงินหมื่น' เฟส 3 ไม่ใช้แอปเป๋าตัง กำลังจัดซื้อจัดจ้างพัฒนาระบบ คาดเสร็จ มี.ค.68
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำแอปพลิเคชันที่ใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เงิน 10,000 บาท เฟส 3 หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกมนตรี
เชิญชวนประชาชน ร่วมโครงการ 'คุณสู้ เราช่วย' เปิด 5 ขั้นตอนง่ายๆ ลงทะเบียน
รัฐบาล เชิญชวนประชาชน ร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” พร้อมเปิด 5 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อลงทะเบียน ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศ
'เจ๊ไหม' จี้ถามปฏิรูปภาษี-ล้วงทุนสำรอง 'จุลพันธ์' ยก OECD ที่ไทยจะเข้าเป็นสมาชิกเป็นต้นแบบ!
'ศิริกัญญา' จี้ถาม 'ปฏิรูประบบภาษี' บอก ฟังแล้วเหนื่อยไม่มีเป้าหมาย 'จุลพันธ์' แย้งบอกเป็นแนวทางศึกษา ระบุ 'ไม่มีโจทย์ ไม่มีเป้า ไม่มีธง' แค่เดินหน้าไป เหน็บเอาใจยากพอสมควร
ครม.เคาะแพ็กเกจใหญ่ช่วยเหลือ 'ลูกหนี้รายย่อย-เอสเอ็มอี'
ครม. อนุมัติชุดใหญ่! จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ผู้ประกอบการ SMEs มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นแน่
ชาวนาเตรียมรับเงิน ธ.ก.ส.พร้อมโอนไร่ละพัน 16 ธ.ค.นี้
คลังยัน ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินไร่ละ 1,000 เงินถึงมือ เริ่มวันแรก 16 ธ.ค.นี้