ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนยังร้อนแรงคาดหวังศก.ฟื้น

FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง หลังยังคาดหวังเศรษฐกิจในประเทศฟื้นช่วยหนุน พร้อมจับตาสถานการณ์ระบาดของโอมิครอน-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

6 มกราคม 2565 นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index : ICI) ในเดือน ธ.ค.2564 พบว่า ดัชนี ICI ในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 129.53 ปรับตัวลดลง 4.2% จากเดือนก่อนหน้าและยังคงอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงโดยนักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รองลงมาคือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

สำหรับผลสำรวจ ณ เดือน ธ.ค. 2564 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนบุคคลปรับลด 5.8% อยู่ที่ระดับ 127.63 และกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 19% อยู่ที่ระดับ 121.43 ขณะที่ความเชื่อมั่นกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ อยู่ที่ระดับ 100.00 และกลุ่มนักลงทุนต่างชาติทรงตัวอยู่ที่ระดับ140.00

โดยในช่วงเดือน ธ.ค. 2564 SET Index เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,588.19-1,657.62 จุด ซึ่งมีปัจจัยในประเทศที่กระทบการเคลื่อนไหวของดัชนี ได้แก่ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และกระทรวงการคลังประกาศทบทวนการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมการขายหุ้น (Financial Transaction Tax) อัตรา 0.1% สำหรับมูลค่าธุรกรรมฝั่งขาย โดยSET index ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2564 ปิดที่ 1,657.62 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7% จากเดือนก่อนหน้า และปรับขึ้น 14.4% จากสิ้นปี 2563

“ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ผลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ การรับมือของภาครัฐต่อสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐแทนมาตรการเดิมที่หมดไป และการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน” นายไพบูลย์ กล่าว