เคาะขึ้นราคาดีเซลอีกรอบ 50 สตางค์/ลิตร ดันราคาขายปลีกแตะ 32.44 บาท

กบน.เคาะขึ้นราคาดีเซลอีกรอบ 50 สตางค์/ลิตร ดันราคาขายปลีกแตะ 32.44 บาท /ลิตร เสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ที่ยังติดลบทะลุ 1 แสนล้านบาท ยันขยับราคาอยู่ในกรอบมติ ครม.

24 พ.ค. 2567 – นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายจ่ายน้อยลงแต่ยังขาดสภาพคล่อง ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรมีการเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงเวลานี้ เพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตทั้งด้านการเงินและสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีความผันผวนต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านสงครามและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กบน. จึงมีมติลดอัตราเงินชดเชยประเภทน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 จาก 1.94 บาท/ลิตร เป็น 1.40 บาท/ลิตร เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประเภทน้ำมันดีเซลลดลงประมาณวันละ 38.32 ล้านบาท จากวันละ 136.70 ล้านบาท เป็น 98.38 ล้านบาท การลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทดีเซลในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกประเภทน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร เป็น 32.44 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2567  เป็นต้นไป

“กบน.จะพิจารณาลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบค่อยเป็นค่อยไปให้เป็นไปตามช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ผันผวนมากจนเกินไป และกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนให้น้อยที่สุด สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 19 พ.ค. 2567 ติดลบ 110,854 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,230 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,624 ล้านบาท”นายวิศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2567 ที่มีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ถึง 31 ก.ค. 2567 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา  และการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ภูมิธรรม’ ทุบฝ่ายต้านบิดเบือน MOU เกาะกูด ทำผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน เมื่อการเมืองบิดเบือน MOU เกาะกูด" ระบุว่าการจุดประเด็นทางการเมืองเรื่อง MOU 44 ในช่วงนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยในหลา

'วรงค์' เหนื่อยใจกับนายกฯอิ๊งค์ พูดวกวน เหมือนดีใจที่กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปอ้อมเกาะกูด

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "เหนื่อยใจกับอุ๊งอิ๊ง"