ส.อ.ท.จับตาสถานการณ์และผลกระทบ หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 40 สว. หวั่นกระทบความเชื่อมั่น และส่งผลต่อการลงทุนชะงัก
23 พ.ค. 2567 – นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 40 สว. เพื่อให้วินิจฉัยสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน จากกรณีที่แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า การที่ศาลฯรับคำร้องดังกล่าวแม้ว่าจะไม่ได้สั่งให้หยุดพักการปฏิบัติราชการ แต่ก็ต้องถือว่ามีความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อไปถึงความเชื่อมั่น เพราะก่อนหน้าที่จะถึงวันที่ศาลฯรับคำร้อง 40 สว. แค่มีกระแสข่าวออกมาก็ทำให้นักลงทุนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งทูตของบางประเทศมีการสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ซึ่ง ณ เวลานั้นก็ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถตอบได้อย่างชัดเจน
“วันนี้ความชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อศาลฯรับคำร้อง ยิ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ต่างโทรเข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก ซึ่งย่อมมีผลต่อความเชื่อมั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากไม่รู้ว่าสถานการณ์ในระยะข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ต้องลุ้นจนกว่าศาลฯจะวินิจฉัยแล้วเสร็จ ซึ่งช่วงเวลานี้ระหว่างไต่สวนก็จะมีความเสี่ยงหมด”นายเกรียงไกร กล่าว
ทั้งนี้ อะไรก็ตามที่กำลังขับเคลื่อน หรือการเดินหน้าดึงนักลงทุน เช่น การที่นายกฯเดินทางไปเชิญชวนนักลงทุนมากมาย แต่เมื่อเกิดข่าวดังกล่าวทุกคนก็จะติดตามนี้เพราะเป็นข่าวดัง และอาจจะสร้างความกังวลได้ แต่จะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่นอนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นหรืออาจทำให้ต้องรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจนก่อน
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปอีกว่า ในระยะสั้นน่าจะสะท้อนออกมาได้ในลักษณะเช่นนี้ แต่ก็หวังว่าจะเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น เพราะจะยังคงทำให้ทุกอย่างยังคงขับเคลื่อน หรือเดินหน้าต่อไปได้ โดยได้แต่หวังว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงคนไทยชะงักงันตามไปด้วย เพราะปัจจัยสำคัญในเวลานี้ของไทยที่จะดึงดูดการลงทุนได้คือความมีเสถียรภาพทางด้านการเมืองด้วย
“สถานการณ์หลังจากนี้ไปได้แต่หวังว่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น โดยขอให้กลับคืนมาได้มากที่สุด และดีที่สุด”นายเกรียงไกร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร : ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
'จตุพร' ตอกย้ำศาลรธน.รับคำร้องคดีล้มล้าง เพื่อหยุดอหังการอำนาจ เริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง
ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง