![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/05/Poomtum.jpg)
‘ภูมิธรรม’ ประกาศเดินหน้าประมูลข้าว 10 ปี หลังผลตรวจสอบออกมาดี ไม่มีสารพิษ สารตกค้าง เผยตั้งคณะทำงานกำหนดทีโออาร์การประมูลแล้ว วางเงื่อนไขแบบยกกอง จัดลำดับผู้ประมูล 1-5 หากมีข้อขัดข้อง เลื่อนลำดับต่อไปขึ้นมาแทน และไม่ต้องเสนอ นบข. พิจารณาอีก เพราะมีมติอยู่แล้ว คาดทีโออาร์เสร็จ พ.ค. ประมูลจบได้ผู้ชนะ มิ.ย.
23 พ.ค. 2567 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ที่เก็บมาแล้ว 10 ปี ว่า จากผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแลปเอกชน ที่ได้ผลตรวจสอบออกมาดีมาก ไม่มีสารพิษ สารตกค้าง สารจากการรมยา หรือตกค้างน้อยมากในปริมาณที่ไม่เป็นอันตราย ถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่จะนำออกสู่ตลาดได้ จึงมีการตัดสินใจอยู่บนหลักการที่ชัดเจนว่าจะประมูลข้าวทันที และประมูลยกกอง โดยจะกำหนดทีโออาร์ให้ชัดเจน เปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาประมูลได้ มีการจัดการประมูลเป็นลำดับที่ 1-5 เพราะหากเกิดมีข้อขัดข้องเกิดขึ้น ซึ่งคิดว่าจะไม่เกิด แต่การจัดอันดับประมูลข้าว สามารถใช้ผู้เสนอราคาสูงสุดในลำดับถัดไปได้ และข้อดี คือ การพิจารณาต่อรองให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงานที่ดูแลเรื่องการจัดประมูลแล้ว โดยไม่ต้องนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพราะมีมติอยู่แล้ว ซึ่งได้ตั้งกรรมการขึ้นมาจัดทำทีโออาร์ ประกอบด้วยองค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเป็นกรรมการ คาดว่าทุกอย่างจะชัดเจนไม่เกินสิ้นเดือน พ.ค.นี้ และพร้อมที่จะประกาศให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาประมูล คาดว่าจะจบประมาณเดือน มิ.ย. รายได้ที่เข้ามา จะได้ดำเนินการตามกระบวนการตามหลักการที่ควรจะเป็นตามกฏหมาย จากการที่ทุกฝ่ายมุ่งหาประโยชน์ให้ประเทศชาติ
“ผมคิดว่าดรามามากเกินไป ควรยุติได้แล้ว เพื่อให้ประโยชน์เกิดกับประเทศดีกว่า อ.อ๊อด (นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ก็ยุติการตรวจสอบแล้ว กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการทุกอย่างอย่างโปร่งใส ให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบ อย่าตั้งข้อสงสัยจนทำให้ข้าวไทยมีปัญหา และเกิดผลกระทบต่อข้าวไทย อย่าทำลายความเชื่อมั่นของข้าวไทย และประเทศไทย”นายภูมิธรรมกล่าว
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/05/10-years-rice.jpg)
สำหรับประเด็นเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูล ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบคุณภาพข้าวได้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และกระบวนการที่กำหนดไว้ และเชื่อว่า ผู้ประมูลทุกคนที่จะเข้ามาประมูล มีแผนอยู่แล้วว่าจะนำข้าวไปใช้แบบใด จะประมูลที่ราคาเท่าไร โดยเท่าที่ทราบ มีตลาดที่ชัดเจนแล้ว คือ ตลาดข้าวแอฟริกา ที่นิยมทานข้าวเก่า และจำนวน 15,000 ตัน มีจำนวนไม่มาก คาดว่าจะประมูลได้ในราคาที่ดี ไม่ใช่ขายข้าวกิโลกรัม (กก.) ละ 4-5 บาท ซึ่งถูกตีเป็นข้าวเน่า
ส่วนข้าวที่จะนำมาประมูล คือ 1.คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2557 ถึง 10 มี.ค.2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบ จาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ
2.คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2557 ถึง 29 เม.ย.2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องของลุง! 'ลุงชาญ' ชนะเลือกตั้ง 'ลุงกฤษฎีกา-ลุงอ้วน-ลุงอนุทิน' จะเชื่อลุงไหน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เรื่องของลุง
รัฐบาลฝันประชุม JTC ครั้งที่ 3 ดันมูลค่าการค้ากระฉูด
นายกฯ ผลักดันต่อยอดความร่วมมือไทย-มาเลเซียทุกมิติต่อเนื่อง เชื่อมั่นการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 จะส่งเสริมตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นในทุกมิติ
'ภูมิธรรม' เล่นบท 'ศรีธนญชัย' ยืมมือกฤษฎีกาตั้ง 'พิชิต' แต่กรณี 'ชาญ' กลับอ้างว่าไม่ใช่ศาล
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า
“สุชาติ” ชี้ช่องทางตลาดในและต่างประเทศแก่ผู้ประกอบการถุง พลาสติกสาน สยามแฟล็กซ์แพ็ค จำกัด โอกาสโตยังเปิดกว้าง!
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หารือกับผู้บริหาร บริษัท สยามเฟล็กซ์แพ็ค จำกัด ผู้ประกอบการผู้ผลิตสินค้าถุงกระสอบพลาสติก สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA
‘สุชาติ’ แนะเกษตรกร/ผู้ประกอบการโคนม นำนวัตกรรม และดูแลสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่า พร้อมศึกษาประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออก
รมช.พณ. สุชาติฯ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการนมโคแปรรูป ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เกษตรและผู้ประกอบการเร่งใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออก และเตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่การเปิดเสรีสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568