ดีพร้อม เยือนญี่ปุ่น ผนึกความร่วมมือภาครัฐและเอกชนผ่าน DIPROM Connection ยกศักยภาพการจับคู่และชูต้นแบบธุรกิจ พร้อมดันอุตฯ โลจิสติกส์ระหว่างประเทศโตกว่า 2,800 ลบ.
21 พ.ค. 2567 – นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นำคณะผู้ประกอบการไทย เดินทางเยือนญี่ปุ่นร่วมออกงานแสดงสินค้านวัตกรรมโลจิสติกส์สมัยใหม่ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจผ่านศูนย์วิจัยการไหลของวัสดุของญี่ปุ่น (Japan Material Flow Institute: JMFI) พร้อมยกระดับเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และศึกษาต้นแบบสถานประกอบการภาคเอกชนของประเทศญี่ปุ่นด้วยการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังใช้โอกาสนี้เข้าพบและหารือความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐประเทศญี่ปุ่นผ่านนโยบาย DIPROM Connection ได้แก่ องค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) องค์กรส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Tokyo SME Support Center) และองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) เพื่อส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่าการเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 2,800 ล้านบาท
นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตนเองได้นำคณะผู้ประกอบการไทยเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงโตเกียว เพื่อศึกษาต้นแบบสถานประกอบการด้านโลจิสติกส์ของประเทศญี่ปุ่น พร้อมสร้างโอกาสการขยายธุรกิจโลจิสติกส์และการตลาดสู่ประเทศญี่ปุ่น โดย ดีพร้อม และคณะฯ เข้าร่วมงาน Asia Seamless Logistics Forum 2024 งานแสดงสินค้านวัตกรรมโลจิสติกส์สมัยใหม่ ซึ่งภายในงานประกอบด้วยการสัมมนาและอภิปรายด้านระบบโลจิสติกส์ การออกบูธนิทรรศการแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการประเทศต่าง ๆ กว่า 200 บูธ เช่น ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ขนส่ง คลังสินค้าอุตสาหกรรม 3PL Shipper ผู้ผลิตและจำหน่าย ค้าปลีก ค้าส่ง บริการ อุตสาหกรรมไอที เป็นต้น ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกันกับประเทศในเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และอาเซียน ซึ่งดีพร้อม ได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานดังกล่าว จำนวน 4 กิจการ ได้แก่ 1) บริษัท ปลาวาฬ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จํากัด 2) บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์ทรานส์ จํากัด 3) บริษัท ซีเจ แมนูแฟคเจอริ่ง จํากัด และ 4) บริษัท เคชั่น เพาเวอร์ จำกัด เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดผู้ประกอบการไทยสู่สากล ทั้งนี้ เกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจกว่า 150 คู่ค้า และได้มีการนัดหมายพบปะเจรจาเพิ่มเติมที่ประเทศไทยอีกด้วย
นายภาสกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ดีพร้อม ยังได้หารือกับศูนย์วิจัยการไหลของวัสดุของญี่ปุ่น (Japan Material Flow Institute: JMFI) เพื่อกำหนดแนวทางการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ การจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในสาขาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ การพัฒนาบุคลากรภาครัฐในด้านโลจิสติกส์ พร้อมทั้งการแลกเปลี่ยนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญร่วมกัน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมของไทย พร้อมทั้งได้นำคณะผู้ประกอบการไทยศึกษาดูงานในหน่วยงานภาคเอกชนต้นแบบของสถานประกอบการประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย 1) บริษัท แอคก้า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นต้นแบบในด้านการให้บริการผู้ประกอบการ E-commerce ด้วยระบบโลจิสติกส์ หุ่นยนต์ และอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things : Iot) และเป็นผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นการจัดการคลังสินค้า และ 2) ศูนย์บริการลูกค้าโตโยต้าโลจิสติกส์และโฟล์คลิฟท์ (Toyota L&F Customer’s Center) เป็นต้นแบบ
ในการนำโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่เหมาะสมให้กับการผลิตผลิตภัณฑ์การขนถ่ายวัสดุ (Material Handling) โดยการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์อํานวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบผ่านการใช้หุ่นยนต์และระบบคาราคุริ
นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ ดีพร้อมได้โอกาสเข้าพบและหารือกับผู้บริหารหน่วยงานของประเทศญี่ปุ่นถึงแนวทางความร่วมมือการพัฒนาอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศผ่านนโยบายการขยายเครือข่ายความร่วมมือ (DIPROM Connection) จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย
องค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการเชื่อมโยงคู่ค้าและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมซูเปอร์ฟู้ด ผ่านบุคลากรของ SMRJ จากประเทศญี่ปุ่น ที่ประจำการ ณ โต๊ะญี่ปุ่น (Japan Desk) ของดีพร้อม เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศให้เติบโตในโลกยุคใหม่อย่างมั่นคง
องค์กรส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Tokyo SME Support Center) ได้หารือถึงแนวทางการบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) และการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น
องค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (NEDO) เพื่อหารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ประกอบด้วย การจัดสัมมนาถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างผู้ประกอบการไทย-ญี่ปุ่น และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงานด้วยการให้ทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอนุรักษ์พลังงานให้กับบริษัทต่าง ๆ และได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Robot) และพลังงานใหม่ ๆ อาทิ พลังงานไฮโดรเจนและเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF : Sustainable Aviation Fuel) และพลังงานไฟฟ้าจากแบคทีเรีย
ทั้งนี้ จากการที่ดีพร้อมนำคณะผู้ประกอบการไทยเยือนประเทศญี่ปุ่นและผนึกความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเชื่อมโยงการเจรจาธุรกิจและต่อยอดความร่วมมือระหว่างสองประเทศทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 2,800 ล้านบาท และช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายภาคอุตสาหกรรมระหว่างสองประเทศในอนาคต นายภาสกร กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิมพ์ภัทรา' สั่งการ 'ดีพร้อม' เร่งเยียวยาประชาชนในพื้นที่มาบตาพุด
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้ นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เร่งเยียวยาและฟื้นฟูให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนในพื้นที่จากเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน
ดีพร้อม โชว์ผลสำเร็จ 'BCG Model' ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 2,000 ตันต่อปี
ดีพร้อม โชว์ผลสำเร็จ “BCG Model” นำร่อง 10 กิจการ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 2,000 ตันต่อปี พร้อมขยายผลปี 67 เตรียมเปิดตัวเดือนมิถุนายนนี้
อุตฯสิ่งทอไตรมาสแรกคึกคักมูลค่าส่งออกพุ่งสูง 1.7 ล้านเหรียญ
ดีพร้อม เผยอุตฯ สิ่งทอไตรมาสแรกคึกคักมูลค่าส่งออกพุ่งสูง 1.7 ล้านเหรียญ เร่งการันตีมาตรฐาน Thailand Textiles Tag ปี 3 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจโตไม่น้อยกว่า 20%